อัยการพิเศษฝ่ายคดี ศาลแขวง 5 ปทุมวัน เลื่อนสั่งคดีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมพวก ชุมนุมแฟลชม็อบ บริเวณสกายวอล์กสี่แยกปทุมวันเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 62 ที่ผ่านมา เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ จึงให้พนักงานสอบสวนทำการรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม ประกอบกับฝ่ายผู้ต้องหาร้องขอให้สอบเพิ่มด้วย
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความของนายธนาธร กล่าวว่า วันนี้อัยการยังไม่มีคำสั่งให้ฟ้องผู้ต้องหาในคดีนี้ โดยเลื่อนนัดฟังคำสั่งเป็นวันที่ 17 มี.ค.63 เวลา 10.00 น. และให้พนักงานสอบสวนไปสอบเพิ่มเติม เพราะพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ ประกอบกับได้ร้องขอความเป็นธรรมให้มีการสอบเพิ่มเติมด้วย
สำหรับประเด็นที่ฝ่ายผู้ต้องหาขอให้สอบเพิ่ม เช่น กรณีที่นายธนาธรพบปะกับประชาชนบนสกายวอล์คไม่ใช่การนัดชุมนุมที่ต้องแจ้งเจ้าพนักงานตามที่ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ หรือไม่, ระยะห่างจากเขตพระราชฐานเกิน 150 เมตรตามที่กฎหมายระบุหรือไม่ และ เจ้าพนักงานไม่เคยมีคำสั่งห้ามชุมนุม
ด้านนายธนาธร กล่าวก่อนเข้าพบพนักงานอัยการว่า ยืนยันถึงสิทธิและเสรีภาพอันชอบธรรมในการชุมนุมทางการเมือง และจะเดินหน้าต่อสู้ทางการเมืองเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม และไม่กังวลหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ เพราะไม่มีสิ่งใดมาทำลายอุดมการณ์ได้
"ฟ้องหรือไม่ฟ้องกับการทำงานทางการเมืองเป็นคนละเรื่อง เคยบอกแล้วว่าพวกเราจะไม่ถอยไม่ทน...ยังคงเดินหน้าต่อไป ไม่มีอะไรมาทำลายอุดมการณ์ที่ตั้งได้ แม้ชื่อพรรคไม่มีแล้ว แต่ยังมีผมกับอาจารย์ปิยบุตร ส.ส.พรรค และสมาชิกพรรค"นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวว่า กระบวนการที่นำไปสู่การตัดสินคดียุบพรรคไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะมีเอกสารที่หลุดออกมาว่าอนุกรรมการให้ยกคำร้องเพราะไม่มีกฎหมายห้ามพรรคการเมืองกู้เงิน, เงินกู้ไม่ใช่เงินบริจาคเพราะต้องขำระหนี้ และพรรคการเมืองอื่นก็มีการกู้ แต่ก็ยังมีการตั้งคณะอนุกรรมการอีกชุดเพื่อเอาผิดให้ได้ และยัดข้อหาตามมาตรา 72 โดยไม่เปิดโอกาสให้ชี้แจง
"ตามมาตรา 72 ระบุที่มาของเงินว่าต้องไม่ใช่เงินสกปรกจากการค้ายาเสพติด การพนัน แต่เงินกู้ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงในการทำงานของผม"นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวว่า การอภิปรายนอกสภานั้นจะเกิดขึ้นหากข้อมูลที่เตรียมไว้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่มีโอกาสได้ใช้ ทั้งนี้เพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างหนักแน่นทั้งในและนอกสภา เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาพรรคมีการตระเตรียมเนื้อหาสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจไว้หลายเรื่อง ตัวผู้อภิปรายหลายคนก็เป็นกรรมการบริหารพรรค ถ้ามีการยุบพรรคตัดสิทธิเกิดขึ้นจริง ก็คงต้องนำมาอภิปรายนอกสภาแทน ส่วนการอภิปรายนอกสภานี้จะนำไปสู่อะไรคงไม่สามารถคาดเดาได้ในวันนี้
นายธนาธร ยืนยันว่า เนื้อหาทั้งหมดที่จะนำมาอภิปรายมีการเตรียมงานที่หนักแน่นเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล นอกจากนี้ ยังชวนตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดต้องมีการนัดฟังคำวินิจฉัยก่อนหน้าวันอภิปรายไม่ไว้วางใจแค่ไม่กี่วัน ส่วนเรื่องการลงถนนนั้น ยังไม่ขอพูดถึงตอนนี้ แต่ขอยืนยันว่าจำเป็นต้องรณรงค์ต่อสู้ในทุกทางที่จะทำได้ เพื่อสะท้อนความเดือดร้อนโกรธแค้นของประชาชนที่มีต่อสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงนัดตัดสินก่อนถึงวันอภิปรายฯ ไม่กี่วัน ซึ่งในวันที่ 21 ก.พ.63 คงจะไม่เดินทางไปศาล ส่วนจะนัดรวมตัวกันรอฟังที่พรรคเหมือนก่อนหน้านี้หรือไม่จะหารือกันในสัปดาห์หน้า