กลุ่มกบฏฟาร์กในเอกวาดอร์ลอบเข้าไประเบิดท่อส่งน้ำมันในโคลัมเบีย ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ แห่งเวเนซูเอลา ก็กำลังพิจารณายึดกิจการธุรกิจของโคลัมเบียในเวเนซูเอลามาเป็นของรัฐ
การกระทำดังกล่าวอาจเป็นการโต้ตอบโคลัมเบียที่ส่งทหารรุกล้ำชายแดนเอกวาดอร์เข้าไปโจมตีค่ายพักของกลุ่มฟาร์กเมื่อวันที่ 1 มี.ค. จนส่งผลให้นายราอูล เรเยส ผู้นำอันดับสองของกลุ่มฟาร์กเสียชีวิต
ทั้งนี้ คาดว่าความขัดแย้งในครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดความเสียหายทางการค้าระหว่างเวเนซูเอลาและโคลัมเบียเป็นมูลค่ากว่า 5 พันล้านดอลาร์สหรัฐ
"การแก้แค้นโคลัมเบียเพิ่งเริ่มต้น และจะยังดำเนินต่อไป" เอ็ดการ์ จิเมเนซ นักวิเคราะห์จากบริษัท Stanford Bolsa y Banca ในเมืองโบโกต้า กล่าวผ่านการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
นายมานูเอล ไมกุชกา รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของโคลัมเบีย กล่าวว่า การที่กลุ่มกบฏฟาร์กลอบระเบิดท่อส่งน้ำมันทรานซานดิโนซึ่งเป็นของบริษัทน้ำมันของทางการ ส่งผลให้ท่อส่งน้ำมันดังกล่าวไม่สามารถใช้งานได้ไปอีกอย่างน้อย 3 วัน
ด้านประธานาธิบดีนิคารากัวได้แสดงจุดยืนด้วยการถือหางเอกวาดอร์และตัดความสัมพันธ์ทางการฑูตกับโคลัมเบีย ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีเอกวาดอร์ก็เรียกร้องให้นานาชาติประณามการโจมตีข้ามชายแดนของโคลัมเบีย
เว็บไซท์บลูมเบิร์กรายงานว่า ข่าวการลอบวางระเบิดท่อส่งน้ำมันในเอกวาดอร์ เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ดันราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 105.47 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อคืนนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--