นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เร่งรัดให้มีการย้ายโรงงานยาสูบย่านคลองเตยติดกับศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เนื้อที่ประมาณ 400 ไร่ ไปอยู่ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยานั้น พื้นที่โรงงานยาสูบจะเปลี่ยนเป็นโครงการ THE PARQ ที่จะทำเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานคร (CBD) มีทั้งโครงการคอนโดมิเนียม ออฟฟิศ ช็อปปิ้งมอลล์ โรงแรม มูลค่าโครงการกว่า 2 หมื่นล้านบาท
นายยุทธพงศ์ ตั้งข้อสังเกตว่า มีความพยายามจะเอื้อให้กับเจ้าสัวหรือไม่ เพราะในการทุบศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ยังออกเงินค่าทุบให้ รวมทั้งในการก่อสร้างสวนสาธารณะแห่งใหม่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้นำเงินรายได้จากโรงงานยาสูบมาใช้ในการก่อสร้างอีก 950 ล้านบาท แม้สวนแห่งนี้จะมีระบุเป็นการสร้างเพื่อคนกรุงเทพฯ แต่คนที่จะได้ประโยชน์มากที่สุด คือ คนที่มีบ้านอยู่ติดกับสวน
นอกจากนั้น ยังตั้งข้อสังเกตกิจกรรมเกี่ยวกับยาสูบ รัฐบาลควรจะห้ามบุหรี่ต่างประเทของบริษัทชื่อดังที่นำเข้ามาขายในประเทศไทย หรือหากยังให้เข้ามาขายก็ต้องเก็บภาษีในอัตราสูง เพราะปัจจุบันบุหรี่ต่างประเทศซองละ 120 บาท แต่บุหรี่ไทย กรองทิพย์ สายฝน ราคา 95 บาท ซึ่งต่างกันไม่มาก คนเลยไม่ค่อยซื้อบุหรี่ไทยไปซื้อบุหรี่นอก เหตุใด พล.อ.ประยุทธ์ ไม่จัดการ ไม่ดำเนินการ
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะมีขึ้นนี้ พรรคเพื่อไทยเตรียมข้อมูลชี้ให้ประชาชนเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทำผิดกฎหมาย ทำผิดรัฐธรรมนูญ ทำงานไม่รอบคอบอย่างไร จะไม่นำเรื่องเก่ามาพูด มีแต่เรื่องใหม่ ขอให้ติดตาม และขอให้พล.อ.ประยุทธ์ ฟังการอภิปราย อย่าให้องครักษ์มาคอยประท้วง เพราะประชาชนต้องการจะฟังข้อมูลดีๆ จากการอภิปราย
ขณะที่คณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทยเตรียมข้อมูลจะอภิปรายฯ พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าทนฟังเรื่องที่ไปพัวพันเจ้าสัวไม่ได้ ก็ยังมีเวลาภายในอาทิตย์นี้ควรไปลาออก แต่อย่ายุบสภาฯ เพราะเรื่องนี้ ส.ส.ไม่เกี่ยว ไม่เช่นนั้นคนอื่นจะเดือดร้อนด้วย