นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) แถลงปิดคดีเงินกู้ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 21 ก.พ.ว่า มีประเด็นที่จะชี้แจงให้สาธารณชนได้รับทราบ 5 ประเด็นที่จะแถลงต่อศาลเพื่อชี้ให้เห็นว่าพรรคไม่ได้กระทำความผิด
1.พรรคอนาคตใหม่จำเป็นต้องกู้เงินจากหัวหน้าพรรคมาใช้ทำกิจกรรมทางการเมืองตามกรอบเวลาที่จำกัดเพียงเดือนเศษตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงเลือกแนวทางที่แตกต่างไปจากพรรคการเมืองอื่น เช่น การขายโต๊ะจีนของพรรคพลังประชารัฐหรือพรรครวมพลังประชาชาติไทยที่มีเงินบริจาคจากบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งขัดต่อนโยบายพรรคที่ต้องการกำจัดทุนผูกขาดให้หมดไป และการที่หัวหน้าพรรคพูดเรื่องที่เงินกู้ดังกล่าวก็เป็นไปโดยเปิดเผยและตั้งใจ ไม่ใช่หลุดปากพูด
2.พรรคการเมืองสามารถกู้เงินได้ เพราะเป็นนิติบุคคลเอกชน ไม่ใช่หน่วยงานรัฐ ซึ่งสามารถดำเนินการได้หากไม่มีกฎหมายห้ามไว้ ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิชาการหลายคนยืนยัน ตลอดจนเอกสารชี้แจงพรรคการเมืองของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ระบุไว้
3.เงินกู้ดังกล่าวถือเป็นหนี้สินที่มีสัญญาชัดเจน และได้ชำระคืนตามกำหนด ไม่ใช่รายได้ ไม่ใช่เงินบริจาค และ ไม่ใช่ประโยชน์อื่นใด ซึ่งมีพรรคการเมืองอื่นกว่า 20 พรรคที่มีการกู้เงินเช่นกัน และถึงแม้ในที่สุดจะเป็นความผิด แต่กรณีนี้ควรจะมีโทษการปรับและการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้ที่บริจาคเกิน 10 ล้านบาท และเป็นกระบวนการทางคดีอาญาที่ผ่านศาลยุติธรรมเท่านั้น
4.กระบวนการของ กกต.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีความพยายามที่จะกล่าวหาว่าพรรคอนาคตใหม่ทำผิดมาตรา 72 เพื่อโยงไปให้ถึงการลงโทษยุบพรรคให้ได้ เพราะที่มาของเงินนั้นไม่ได้มาจากธุรกิจต้องห้าม เช่น การค้ายาเสพติด ซึ่งองค์ประกอบความผิดเป็นคนละเรื่อง และในระหว่างที่ กกต.พิจารณาเรื่องนี้ก็ไม่เคยแจ้งให้พรรครับทราบ หรือเปิดโอกาสให้ชี้แจงเลย
"หลักการการพิจารณาของ กกต.อยู่ที่ไหน การทำหน้าที่เป็นองค์กรกลางไม่ควรหยิบยกข้อกล่าวหาเป็นเพียงบัตรสนเท่ และจะเร่งรีบอะไรขนาดนั้น การพิจารณาข้ามขั้นตอนของ กกต.ที่ผ่านมาเคยมีคำวินิจฉัยให้ยกคำร้องมาแล้ว" นายปิยบุตร กล่าว
5.ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจยุบพรรค เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 ไม่ได้ให้อำนาจไว้ แต่การยุบพรรคเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
เลขาธิการพรรค อนค.กล่าวว่า การที่มีผู้ออกมาพูดว่าพรรคควรเคารพกฎหมายนั้น ต้องยึดหลัก 3 ประการคือ ที่มาของกฎหมาย, กระบวนการพิจารณา และเนื้อหาจึงจะถือว่าชอบธรรม ไม่ใช่แค่ตั้งข้อหาแล้วจะเอาตัวเข้าคุกโดยไม่มีคำอธิบายเลย
"คนที่พูดว่าควรเคารพกฎหมาย พูดได้เพราะไม่โดนกับตัวเอง แล้วทำไม่เราถึงไม่มีสิทธิที่จะวิพากษ์วิจารณ์องค์กรอิสระ หากวันที่ 21 มีการยุบพรรคจริงจะเป็นประวัติศาสตร์ที่มีการยุบพรรคฝ่ายค้านและยุบก่อนที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 3 วัน" นายปิยบุตร กล่าว
เลขาธิการพรรค อนค. กล่าวอีกว่า การยุบพรรค อนค.จะเป็นการทำลายความหวังของคนจำนวนมาก เหมือนการทุบหัวใจของคนที่เคยสิ้นหวัง ปิดกั้นการแสดงออกที่ต้องการต่อค้านรัฐประหาร ลดความเหลื่อมล้ำ ปฏิรูปกองทัพ ซึ่งจะไม่เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประชาธิปไตยให้ดีขึ้น
"พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ทำผิดตามมาตรา 62, 66 และ 72 ศาลรัฐธรรมนูญต้องยกคำร้อง...ผมไม่เข้าใจว่า พ.ร.บ.พรรคการเมือง มีไว้เพื่อสนับสนุนให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง หรือเอาไว้กำจัดพรรคการเมือง...ไม่ว่าจะชี้แจงอย่างไรก็มีประเด็นใหม่เกิดขึ้นอีก หรือผิดที่ชื่อพรรคอนาคตใหม่ เรื่องนี้มันเหมือนหมาป่ากับลูกแกะ อยากรู้ว่า กกต.ต้องการอะไรกันแน่"นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร กล่าวต่อว่า สิ่งที่พรรคดำเนินการจะเป็นหนทางเดียวที่จะต่อสู้กับนิติสงคราม เพื่อต่อต้านการรัฐประหาร และหากพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบจริงจะไม่ทำให้ผู้อยู่เบื้องหลังสมประโยชน์
"พรรคอนาคตใหม่จะไม่หายไป ธนาธรและปิยบุตรจะไม่หายไป แต่จะเป็นธนาธรและปิยบุตรที่โลดแล่นมากกว่าเดิม และจะไม่มี ส.ส.ย้ายเข้าร่วมรัฐบาล"นายปิยบุตร กล่าว
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.63 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคได้ทำหนังสือชี้แจงข้อกล่าวหาในคดีดังกล่าวถึงศาลรัฐธรรมนูญจำนวน 19 หน้า ปฏิเสธข้อกล่าวหาของ กกต.โดยยืนยันว่าไม่ได้ฝ่าฝืนมาตรา 62, 66 และ 72 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เนื่องจาก 1.พรรคเป็นนิติบุคคลที่สามารถกู้ยืมเงินได้ และไม่มีกฎหมายห้าม ซึ่งมีพรรคการเมืองอื่นอีก 16 พรรคที่มีการกู้ยืมเงินเช่นกัน อีกทั้งยังมีการกู้ยืมจองพรรคการเมืองในระบบกฏหมายต่างประเทศ
2.ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจวินิจฉัยยุบพรรคตามกฎหมายอื่น เนื่องจากรัฐธรรมนูญบัญญัติให้มีอำนาจวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา รัฐสภา คณะรัฐมนตรี หรือองค์กรอิสระ ดังนั้นบทบัญญัติมาตรา 92 และ 93 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง จึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 210 นำมาใช้บังคับแก่คดีนี้ไม่ได้
3.กระบวนการยื่นคำร้องขอให้ยุบพรรคไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจาก กกต.กระทำผิดขั้นตอน โดยไม่เปิดโอกาสให้ชี้แจง
4.การที่พรรคกู้ยืมเงินจากนายธนาธรเป็นหนี้สินไม่ใช่รายได้ โดยมีการทำสัญญาจริง ไม่ใช่นิติกรรมอำพราง
5.การใช้และตีความบทบัญญัติมาตรา 72 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองของ กกต.ขัดหรือแย้งกับเจตนารมณ์แห่งกฎหมาย เพราะที่มาของเงินไม่ได้มาจากธุรกิจผิดกฎหมาย
ด้วยข้อเท็จจริงและเหตุผลประกอบกับข้อกฎหมายดังกล่าวจึงขอให้ศาลพิจารณายกคำร้องและจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ