นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประกาศจัดตั้งคณะอนาคตใหม่ เพื่อทำงานทางการเมืองสืบสานอุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ต่อไป หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรคพร้อมตัดสิทธิการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด 10 ปี โดยผู้ที่ถูกตัดสิทธิทั้งหมดจะมาทำงานภายใต้คณะบุคคลดังกล่าว พร้อมทั้งกล่าวคำขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุนพรรค และกล่าวคำขอโทษที่พรรคไม่สามารถหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามที่ได้สัญญากับประชาชนไว้
"นี่เป็นเวลาที่จะลุกขึ้นยืนอย่างมั่นคง ไม่ใช่เวลาเสียใจ ไม่ใช่เวลาร้องไห้ เราไม่มีเวลาสำหรับสิ่งเหล่านั้น อย่าเปลี่ยนใจ อย่าหมดไฟ อย่าหยุดฝัน...ยังมีคณะอนาคตใหม่ทำงานรณรงค์วาระที่ก้าวหน้าทางการเมืองกับสังคมกับประชาชน ยังมี ส.ส.พรรคอนาคตซึ่งผมเชื่อว่าพวกเขาจะดำเนินอุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ต่อไปในสภาผู้แทนราษฎร"นายธนาธร กล่าว
นอกจากนั้น คณะอนาคตใหม่จะทำเรื่องการเมืองท้องถิ่นที่เได้ปลุกเมล็ดพันธุ์ไว้ และสิ่งที่จะทำในนามปัจเจก คือจะตั้งมูลนิธิเพื่อพัฒนาการศึกษาและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำงานกับประชาชนอีกครั้ง วันนี้ไม่ใช่วันที่หยุดก้าวเดิน แต่เป็นวันที่จะก้าวเดินในรูปแบบใหม่ จึงขอพลังจากทุกคนเพื่อก้าวเดินต่อไปด้วยกัน ส่วน ส.ส.อนาคตใหม่กับจะยังหนักแน่นและยังไปด้วยกัน เชื่อว่าพวกเขาจะสานต่ออุดมการณ์ของพรรคต่อไป
"วันนี้ไม่ใช่วันที่เราท้อถอย วันนี้ไม่ใช่วันที่หยุดก้าวเดิน แต่จะก้าวเดินในรูปแบบใหม่ เชื่อว่า ส.ส.ที่ยืนอยู่กับพวกเราอยู่ขณะนี้ จะยังหนักแน่น และจะสานต่อกับนโยบายพรรคอนาคตใหม่...ดังนั้น หากพวกเขาไปอยู่พรรคไหน ก็ขอให้ไปสนับสนุนพวกเขา พวกท่านให้การสนับสนุนผมมาแล้ว ขอให้สนับสนุนพวกเขาอย่างที่เคยสนับสนุนพวกเรามา ก้าวต่อไปข้างหน้า แม้จะไม่มีพรรคอนาคตใหม่ แต่ยังมีคณะอนาคตใหม่ที่ทำงานรณรงค์การเมืองกับประชาชน ผมภาคภูมิใจที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของพรรคอนาคตใหม่ ขอให้พวกเราเดินต่อไป" นายธนาธร กล่าว
ขณะที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคฯ แถลงแสดงจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ พร้อมทั้งเชิญชวนประชาชนออกมารวมตัวที่ทำการพรรคในเวลานี้เพื่อแสดงจุดยืนร่วมกันและให้กำลังใจกัน โดยประกาศว่าจะร่วมกับนายธนาธรออกเดินทางรณรงค์ทางการเมืองทั่วประเทศ
นายปิยบุตร กล่าวว่า ขอใช้อำนาจอธิปไตยของประชาชนวิจารณ์และไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยบริสุทธิ์ใจไม่ใช่การละเมิดอำนาจศาล โดยศาลวินิจฉัยว่าพรรคการเมืองเป็นนิติบุคคลมหาชนทั้งๆ ที่พรรคการเมืองเป็นการรวมตัวของบุคคลและจดทะเบียนกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ได้ถือครองอำนาจรัฐและไม่ได้ใช้อำนาจมหาชน
นอกจากนั้นจากการที่ศาลฯ ระบุว่า เงินกู้ของพรรคการเมืองอาจกลายเป็นเงินบริจาคและประโยชน์อื่นใด ดังนั้น พรรคการเมืองทุกพรรคดีที่มีการกู้เงินเกินกว่า 10 ล้านบาทอาจถูกตีความว่าเป็นเงินบริจาคหรือประโยชน์อื่นใดและจะถูกยุบพรรคทันที และการใช้มาตรา 72 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองยุบพรรคอนาคตใหม่ไม่ตรงกับเจตนารมณ์กับกฎหมาย เป็นการขยายความเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า หากต้องการห้ามไม่ให้พรรคการเมืองไม่ให้กู้เงินก็ควรตรากฎหมายเพื่อกำหนดให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถปฏิบัติได้ล่วงหน้าและดำเนินการได้ถูกต้อง ไม่ใช่ปล่อยให้คลุมเครือและปล่อยให้มีการตีความเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโทษรุนแรงถึงขั้นยุบพรรค ขณะที่หลายพรรคที่ไม่ได้เปิดเผยกิจกรรมที่มาของเงินกลับไม่ถูกลงโทษ นอกจากนั้นยังไม่เห็นด้วยกับการตัดสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคถึง 10 ปีและขอให้ประชาชนตัดสินว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ถูกต้องหรือไม่
"ผลสืบเนื่องทางการเมืองไทยจากคำวินิจฉัยวันนี้ คือ ประเทศไทยไม่อนุญาตให้มีพรรคการเมืองที่ทำงานสร้างสรรค์ที่มีความคิดก้าวหน้าปฏิรูปประเทศถึงระดับโครงสร้าง ประเทศไทยเลือกใช้นิติสงครามเลือกจำกัดศัตรูทางการเมืองแบบเดิม และนิติสงครามเช่นนี้ไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งได้ ตรงกันข้ามกลับตอกลิ่มความขัดแย้งมากกว่าเดิม"นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร กล่าวว่า หากการยุบพรรคครั้งนี้เพียงเพราะว่าผู้มีอำนาจต้องการผลักไสยตนเองและธนาธรออกไป แต่ยืนยันว่าพวกเขาคิดผิดครับ เพราะความคิดแบบอนาคตใหม่จะเจริญงอกงามเติบโตกว้างยิ่งกว่า เพราะตนเองและธนาธรจะออกโลดแล่นทางการเมืองยิ่งกว่าเดิม หากคิดว่านี่เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม พวกเขาคิดผิดครับ เพราะนี่คือไฟลามทุ่ง พวกเขาคิดผิดนี่เป็นอาการที่แสดงให้เห็นว่าอำนาจที่เขาถืออยู่นั้นปราศจากความชอบธรรม
"นี่คือจุดเริ่มต้นของประชาชนเพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย เราจะร่วมกันต่อสู้ต่อไป ความคิดแบบอนาคตใหม่จะเติบโตยิ่งกว่าเดิม ผมและธนาธรจะรณรงค์ทางการเมืองทั่วประเทศอย่างไม่รู้เหนื่อย นี่ไม่ใช่จุดจบแต่คือจุดเริ่มต้น เพราะพวกเราเป็นปีศาจที่กาลเวลาได้สร้างขึ้นเพื่อหลอกหลอนคนในโลกเก่า"นายปิยบุตร กล่าว