แหล่งข่าวจากรัฐสภา ระบุว่า นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิไทย (ภท.) ได้ทำหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ลงวันที่ 25 ก.พ.63 เพื่อแจ้งให้ทราบว่ามี ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ 9 คน ได้ขาดจากความเป็นสมาชิกภาพของพรรคอนาคตใหม่ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ และจำเป็นต้องสังกัดพรรคใหม่ภายใน 60 วัน
โดยเมื่อวานนี้ (24 ก.พ.) ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 9 คน ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย 1.นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2.นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 3.นายกฤติเดช สันติวชิระกุล ส.ส.แพร่ เขต 2 4.นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 5.ร้อยตำรวจมณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม เขต10
6.นายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี เขต 3 7.นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่ เขต 1 8.นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภนมณี ส.ส.กทม. เขต 23 และ 9.นายสำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ
รายงานข่าวระบุด้วยว่า เมื่อหนังสือดังกล่าวได้ส่งถึงนายชวนแล้ว จะส่งผลให้พรรคภูมิใจไทยมีสมาชิกในสภาผู้แทนราษฎร เพิ่มขึ้น 9 คน เป็น 61 คน จากเดิม 52 คน ส่งผลให้เป็นพรรคภูมิใจไทยขยับขึ้นเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 3 ของประเทศ แทนพรรคประชาธิปัตย์ และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของพรรคร่วมรัฐบาล
นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ยอมรับว่า ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวานนี้ หลังจากพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ และได้รับการทาบทามและชักชวนจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้มาทำงานร่วมงาน
นายวิรัช กล่าวภายหลังมารอรับนายอนุทินที่บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา พร้อมกับนางสาวศรีนวล บุญลือ ส.ส. เชียงใหม่ พรรคภูมิใจไทย ที่ย้ายมาจากพรรคอนาคตใหม่ก่อนหน้านี้ โดยระบุว่า ส่วนตัวมีความสนิทสนมและเคยทำงานร่วมกันกับนายอนุทินมานานกว่า 25 ปี และมองว่าพรรคภูมิใจไทยมีความเป็นกันเองและมีโอกาสทำงานได้
ส่วน ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่คนอื่นจะย้ายมาพรรคภูมิใจไทยด้วยหรือไม่นั้น ตนเองไม่ทราบ แต่ยืนยันการย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทยครั้งนี้ไม่มีเรื่องเงินในการซื้อตัวง และยังไม่ได้มีการแจ้งกับคณะอนาคตใหม่ เพราะขณะนี้ยังไม่ได้มีการตั้งพรรคใหม่อย่างเป็นทางการ ส่วนกรณีคลิปเสียงซื้อตัว ส.ส.23 ล้านบาทนั้นก็ไม่ทราบรายละเอียด
ขณะที่มีรายงานข่าวว่า นายวิรัช พร้อมด้วย ส.ส.ที่เคยสังกัดพรรคอนาคตใหม่ รวม 9 รายย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย ได้แก่ นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ส.ส.กทม.เขต 23, ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม. เขต 10, นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กทม. เขต 21, นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่ เขต 1, นายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี เขต 3, นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1, นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 และนายสำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ด้านนางสาวศรีนวล ยืนยันว่า ไม่ได้มีการชักชวนอดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่มาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย แต่ยอมรับว่ามีคนมาสอบถามถึงการทำงานในพรรคภูมิใจไทย ก็ได้ชี้แจงไปว่าเป็นการทำงานแบบครอบครัวเดียวกัน ส่วนการที่ใครจะมาอยู่พรรคไหนก็เชื่อว่าแต่ละคนสามารถพิจารณาด้วยตนเอง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยอมรับว่า ได้มีการพูดคุยกับ 9 ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งพรรคพยายามเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้มีโอกาสเข้ามาทำงานเพื่อประชาชน หากมีอุดมการณ์เดียวกัน และยอมรับแนวทางการทำงานด้วยกัย โดยไม่มีการเล่นการเมือง พรรคพร้อมรับทุกคน เช่น นางสาวศรีนวล ที่ตั้งใจทำหน้าที่ ส.ส. ทำเพื่อประชาชน พรรคก็พร้อมรับ
ส่วนจำนวน ส.ส.ที่จะมาร่วมงานเท่าไรนั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้เป็นคนทาบทามด้วยตัวเอง แต่เกิดจากการชักชวนของ ส.ส.ที่เป็นเพื่อนฝูงกัน แล้วจึงแจ้งให้ตนเองทราบ ทั้งนี้หากใครตัดสินใจชัดเจนแล้ว ก็มาเขียนใบสมัคร แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้เซ็นรับรองให้ ส.ส.คนใด และเมื่อถึงเวลา หากทุกอย่างเรียบร้อยก็จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ส่วนการที่มี ส.ส.เพิ่มในพรรคแล้ว จะเป็นการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีเพิ่มหรือไม่นั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า การที่พรรคได้ ส.ส.เพิ่ม ไม่ได้นำมาเป็นเงื่อนไขในการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีเพิ่ม และขออย่าเข้าใจผิด โดยย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยไม่เล่นการเมือง ส.ส.ที่เพิ่มขึ้น ก็มีโอกาสทำให้พรรคทำเพื่อประชาชนมากขึ้น และพรรคพอใจอยู่แล้วกับ 7 ตำแหน่งรัฐมนตรีที่มี แม้จะมี ส.ส.เพิ่มมากขึ้น ก็ยังคงขอเท่าที่มีอยู่เดิม เพราะถือว่าเป็นผู้ก่อตั้งรัฐบาลมาด้วยกัน แต่หากจะมีการปรับ ครม. พรรคภูมิใจไทยขอตำแหน่งเท่าเดิม อย่าตัด 7 ตำแหน่งที่มีขณะนี้
นายอนุทิน กล่าวว่า การย้ายมาสังกัดพรรค เป็นการเปิดพื้นที่ ส.ส.ได้มาทำงานเพื่อประชาชน และหากพรรคภูมิใจไทยจะสามารถเป็นสะพานให้ ส.ส.เหล่านี้ได้รับใช้ประชาชนได้ดีกว่าเดิมก็จะเป็นประโยชน์ เพราะขณะนี้พรรคก็เป็นรัฐบาล มีโอกาสทำงานได้มาก
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงคลิปเสียงซื้อตัว ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ว่า ยืนยันว่าไม่ใช่เสียงของพรรคภูมิใจไทย และพรรคไม่มีการซื้อตัว ส.ส.อย่างแน่นอน ทำไมไม่มองว่าพรรคภูมิใจไทยตั้งใจทำงานแล้วอยากมีคนมาอยู่ด้วย และ ส.ส.ที่ย้ายมา ช่วงแรกอาจจะเจอวิกฤตศรัทธาจากประชาชน แต่ทุกคนต้องทำงานพิสูจน์ตัวเอง เพราะงานเท่านั้นที่จะทำให้ทุกคนได้รับความไว้วางใจจากประชาชน