พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ต่อกรณีที่ฝ่ายค้านอภิปรายพาดพิงการทำงานของกองทัพว่า มีคนสงสัยว่าประเทศไทยจะกลายเป็นรัฐทหารหรือไม่นั้น ขอชี้แจงว่ากองทัพมีแผนแม่บทในการปฏิรูปและปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงกลาโหมระหว่างปี 2560-2569 ทำให้กองทัพเล็กลงและทำให้ทันสมัย และมีขีดความสามารถสูง ทั้งในเรื่องคนและเครื่องมือต่างๆ ไม่เน้นเฉพาะการจัดซื้อเท่านั้น แต่มุ่งเน้นการซ่อมแซมยุทโธปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพพร้อมใช้งาน ตลอดจนให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)
"เราจำเป็นต้องเสริมสร้างศักยภาพของเราให้ทัดเทียม ไม่ใช่มีไว้เพื่อรบกัน แต่มีไว้เพื่อเจรจาต่อรองเท่านั้น ทหารของเราต้องทำให้เป็นทหารมืออาชีพและมีมาตรฐาน ปรับปรุงแก้ไขระเบียบข้อบังคับต่างๆ ให้ทันสมัยและต่อเนื่อง รวมไปถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตของกำลังพลอย่างเป็นรูปธรรม การจัดหายุทโธปกรณ์นั้น เรามีแผน ไม่ใช่นึกจะซื้ออะไรก็ซื้อ เพราะต้องอยู่ในวงเงินของกระทรวงกลาโหมแต่ละปี ปี 256-2569" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการปรับปรุงหน่วยงานให้มีขนาดเล็กลงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ วันนี้เราปรับลดจำนวนรถถังลงจากกองพันละ 51 คันเหลือเพียง 44 คัน ยานเกราะล้อยางจากกองพันละ 96 คันเหลือ 81 คัน แต่ยังคงความสามารถไว้เท่าเดิม โดยทดแทนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย การจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ เพราะไทยมีมูลค่าทางทะเลมหาศาล วัดมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ประมาณ 24 ล้านล้านบาทต่อปี มีเรือสินค้าเข้าออกอ่าวไทยปีละ 15,000 ลำ และจะมากขึ้นไปอีก
ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านก็มีเรือดำน้ำเช่นเดียวกัน เวียดนามมี 6 ลำ อินโดนีเซียมี 5 ลำ เราจึงมีความจำเป็นเหมือนกันภายใต้ราคาที่ยอมรับได้ แต่ต้องดำเนินการโดยวางแผนระยะยาว ส่วนจะทำได้หรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับงบประมาณ ทุกอย่างเป็นไปตามความจำเป็น ไม่เช่นนั้นจะยิ่งล่าช้าออกไปอีก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการบริหารกำลังพลว่ามีแนวทางการปรับลดนายพลให้เหลือ 50% ตั้งแต่ปี 2551-2571 ส่วนเรื่องทำร้ายทหารและการทุจริตเบี้ยเลี้ยงก็มีการลงโทษมาตลอด และมีแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตข้าราชการชั้นผู้น้อย และวันนี้ทหารบริการก็มีสัดส่วนเหลือจำนวนน้อยมาก ที่กล่าวหาเอาไปเลี้ยงไก่เลี้ยงหมู ผู้บังคับบัญชาคนนั้นก็ได้รับการลงโทษแล้ว
อย่างไรก็ตาม การเกณฑ์ทหารเป็นสิ่งสำคัญ วันนี้บรรจุกำลังพลเพียง 64% ของอัตราตามจริงเท่านั้น เพื่อให้ลดงบประมาณด้านบุคลากร งบประมาณของกระทรวงกลาโหมที่มีตัวเลขสูงขึ้นนั้นเป็นไปตามสัดส่วนของงบประมาณประเทศ ถ้ารวมเม็ดเงินและเม็ดงานแล้ว ทหารทำงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่เรื่องการรักษาอธิปไตยมากพอสมควร ทั้งการพัฒนา และการบรรเทาภัยพิบัติ
"เรื่องการทุจริต ผมคิดว่ามีทุกหน่วยงาน เราต้องขจัดคนไม่ดีออกไป และลงโทษ และดูแลประชาชนภายใต้คำขวัญเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชชน เราต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ในทุกโอกาส เป็นคติประจำใจของทหารทุกคน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว