นายกฯ ปฏิเสธข่าวเตรียมปรับ ครม.ครั้งใหญ่หลังศึกซักฟอกดึงพรรคเพื่อไทยเข้าร่วม

ข่าวการเมือง Friday February 28, 2020 14:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ยืนยันยังไม่มีการพิจารณาปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้นตามที่มีกระแสข่าว หรือแม้แต่การจัดเตรียมบัญชีรายชื่อของ ครม.ชุดใหม่ โดยระบุว่า "ยังไม่ถึงเวลา"

นายกรัฐมนตรี ยังปฏิเสธข่าวพรรคเพื่อไทยจะเข้ามาร่วมรัฐบาล ทำให้ต้องมีการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีใหม่ โดยย้อนถามสื่อมววชนว่าไปเอาข่าวมาจากไหน

ส่วนกรณีที่ผลการลงมติมีคะแนนสนับสนุนรัฐมนตรีเพิ่มมากขึ้นกว่าจำนวนเสียงของรัฐบาลจะส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังหารือกันอยู่

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ผลการลงมติออกมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย การอภิปรายครั้งนี้เป็นไปตามข้อบังคับของสภาทุกประการ และเป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องขอบคุณสมาชิกทุกคน รวมถึงประชาชนที่ให้กำลังใจรัฐบาล ขอยืนยันว่าจะทำทุกอย่างให้ทุกคน และวันนี้ก็รู้สึกสบายใจเพราะได้ผ่านพ้นขั้นตอนการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว หลังจากนี้จะได้มีเวลาไปทำงานเรื่องอื่นที่รออยู่ เพราะขณะนี้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ได้ประกาศใช้แล้ว โดยทุกโครงการที่วางงบประมาณไว้จะลงไปสู่ทุกกลุ่ม ทั้งประชาชนผู้มีรายได้น้อย กลุ่มผู้ใช้แรงงาน คนที่มีรายได้ประจำ เกษตรกร

แต่สิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องเร่งดูแลคือปัญหาภัยแล้ง และการดูแลเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งจะมีมาตรการหลายอย่างลงไปสู่เอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนโดยตรง ทั้งเรื่องเงินทุน ลดดอกเบี้ยเงินกู้ ลดภาษี ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย และ พ.ร.บ.งบประมาณ รวมถึง พ.ร.บ.การเงินการคลังด้วย และต้องขออภัยหากเกิดความล่าช้า แต่จะเร่งรัดดำเนินการให้เร็วที่สุด

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่รอข้างหน้าไม่ใช่เรื่องความขัดแย้ง แต่ต้องเผชิญกับสถานการณ์หลายอย่าง โดยเฉพาะไวรัสโควิท-19 โดยรัฐบาลจะมีมาตรการเพิ่มเติม โดยจะประกาศในวันจันทร์ที่ 2 มีนาคมนี้ และช่วงนี้ขอความร่วมมือประชาชนที่เดินทางไปกลุ่มเสี่ยงให้ระมัดระวัง และต้องคัดกรอง กักตัว 14 วันเป็นอย่างน้อย และต้องแจ้งให้ทางการทราบ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความสับสนวุ่นวาย อลม่านไปหมด

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งการให้โรงงานทั้ง 9 แห่งเร่งผลิตหน้ากากอนามัยเต็มกำลัง เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน พร้อมทั้งจัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งให้กับท้องถิ่นเพื่อนำไปผลิตหน้ากากผ้าใช้เอง จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพของประชาชนเป็นหลัก

ส่วนผลกระทบด้านการท่องเที่ยวนั้น ตนเองได้เร่งรัดส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งจะมีมาตรการออกมา ทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองหลัก และเมืองรอง แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และปัญหาด้านสุขภาพด้วย และในช่วงเวลานี้ขอให้งดการไปดูงานต่างประเทศ แต่ในของส่วนของราชการก็ดูเท่าที่จำเป็น ขณะที่การประชุมต่างประเทศของตนเองที่จะมีขึ้นที่สหรัฐนั้นก็รอกระทรวงการต่างประเทศประสานงานก่อนว่ายังจัดประชุมหรือไม่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พร้อมรับฟังเหตุผลทุกมุมมอง รวมถึงข้อเสนอแนะจากทางโซเซียลมีเดีย โดยเฉพาะกลุ่มที่เห็นต่าง ยิ่งต้องดูว่ามีปัญหาอะไร เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเพื่อกลุ่มเหล่านั้น ซึ่งยอมรับว่าไม่มีใครเห็นด้วย 100% โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ แต่รัฐบาลให้ความสำคัญกับคนทุกช่วงวัย สิ่งที่ต้องช่วยกัน คือ นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล พอประมาณ และมีภูมิคุ้มกันที่ดี

พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับภาคเอกชนบางกลุ่ม แต่อยากให้มองว่าคนไทยด้วยกันมาลงทุนเพื่อประเทศเป็นเรื่องที่ดี และทุกอย่างต้องถูกกฎหมาย และประชาชนต้องได้รับประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้รัฐบาลมีข้อกำหนดในการทำสัญญาเพื่อป้องกันการเสียค่าโง่ ส่วนปัญหาค่าโง่ที่ผ่านมาก็พยายามแก้ปัญหา จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับรัฐบาลบ้าง เพราะทำงานด้วยความตั้งใจซื้อสัตย์ สุจริต เรื่องใดที่มีปัญหาให้ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งส่วนตัวเคารพกระบวนการยุติธรรมทั้งสิ้น และหากต้องการให้บ้านเมืองสงบสุขก็ต้องเริ่มที่ตนเองก่อน เพราะรัฐบาลไม่ต้องการเป็นคู่ขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น เพราะประเทศเผชิญความขัดแย้งมาเป็น 10 ปีแล้ว ทำให้ประเทศเสียโอกาส


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ