นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยถึงผลประชุมแกนนำ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชน (ฝ่ายค้านเพื่อประชาชน) ที่มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เป็นประธานว่า ที่ประชุมจะเปิดกิจกรรมอภิปรายนอกสภาฯ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.การรวบรวมคำถามทั้งหมดที่ ส.ส.ได้อภิปรายถามไปแล้ว แต่รัฐมนตรีไม่ได้ตอบหรือตอบไม่ครบ โพสต์ลงในเพจพรรคฝ่ายค้านเพื่อประชาชน และ 2.การจัดอภิปรายนอกสภาทั่วประเทศ ซึ่งอาจแบ่งเป็น 4 ภาคอย่างที่เคยทำ
ทั้งนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านจะต้องลุกขึ้นสู้เพื่อประชาชนอย่างเป็นเอกภาพและเข้มแข็งตามเดิม ไม่ใช่เวลาที่จะโทษกันไปมา การอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ควรหยุดเพียงแค่ในสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การอภิปรายที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์เป็นประเด็นที่ 6 พรรคฝ่ายค้านตั้งข้อสงสัย กฎหมายมีความยุติธรรมแล้วแต่คนบังคับใช้กฎหมาย หรือผู้นำยังขาดความสัตย์ซื่อ ยุติธรรม จากนี้ 6 พรรคฝ่ายค้านจะร่วมมือกันทำงานให้เข้มแข็งขึ้น
อย่างไรก็ตามที่มีข้อกังขาเรื่องการไปทำข้อตกลงกับรัฐบาลเพื่อไม่อภิปรายรัฐมนตรีบางคนนั้น ในฐานะที่ตนเองเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ขอยืนยันว่าไม่ได้มีการสมยอมกันแต่อย่างใด เพราะคิดว่ามีเวลาถึงเที่ยงคืน ถ้าไม่ปิดปากกันก็จะสามารถพูดจนจบได้
ส่วนเนื้อหาในการอภิปรายนั้นทางคณะทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่ามีหลายประเด็นที่รัฐมนตรีตอบไม่ตรงคำถาม เช่น กรณีการใช้ข้อความหรือภาพให้ประชาชนเกิดความเกลียดชังหรือที่เรียกว่าไอโอ เรื่องนี้อยากเรียนถึงนายกฯ ให้เลิกทำเสีย บางเรื่องตอบไม่ได้ เช่น คดีความที่ออสเตรเลีย และภาษีบุหรี่ เป็นต้น
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ฝ่ายค้านต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และทำงานร่วมกันในอนาคตต่อไป และจุดเริ่มต้นของพรรคฝ่ายค้านรวมตัวกันเพราะมีเป้าหมายเดียวกันคือรักษาประชาธิปไตยและอยากให้ประชาชนได้รับการดูแล โดยต่อสู้กับผู้มีอำนาจรัฐที่ใช้อำนาจเกินขอบเขต
ดังนั้นฝ่ายค้านยังมีจุดยืนร่วมกันและจะจับมือกันอย่างเข้มแข็ง พร้อมเดินหน้าต่อไป ฝ่ายค้านเห็นว่าการอภิปรายครั้งนี้ยังไม่เสร็จสิ้นตามรัฐธรรมนูญ ภาระหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาลของฝ่ายค้านไม่ได้อยู่เพียงในสภาฯ เราจะต้องเดินหน้าตรวจสอบทั้งในและนอกสภาฯ โดยการร่วมมือกับประชาชน เพราะหากอาศัยเพียงมือในสภาฯ เราจะไม่สามารถเอาชนะอำนาจของฝ่ายรัฐบาลได้
นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตรองเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ส่วนหนึ่งจะเดินต่อในนามของคณะอนาคตใหม่ อีกส่วนจะทำงานในสภาฯ ซึ่งจะเดินหน้าทำงานร่วมกันต่อไป โดยการจัดตั้งพรรคใหม่จะเสร็จทันตามกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนดแน่นอน โดยภายในเดือน มี.ค.นี้จะประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง โดยมี ส.ส.จำนวน 55 คนย้ายมาพรรคใหม่ และในวันที่ 4 มี.ค.นี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จะจัดงานเลี้ยงขอบคุณแกนนำพรรคฝ่ายค้านเป็นการส่วนตัว