กกต.ไม่มั่นใจกม.เปิดช่องให้ใช้ดุลยพินิจได้ก่อนส่งศาล รธน.ยุบพรรค พปช.

          นายสุเมธ อุปนิสากร กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ยอมรับว่า ไม่มั่นใจว่ากฎหมายจะสามารถเปิดช่องให้ กกต.ใช้ดุลยพินิจได้หรือไม่ในการพิจารณาส่งสำนวนคำร้องทุจริตเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคพลังประชาชน หรือจำเป็นต้องดำเนินการส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญทันที 
          เนื่องจากมาตรา 103 วรรค 2 ในพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. พ.ศ.2550 ระบุไว้ว่า หากปรากฏหลักฐานอันเชื่อว่าหัวหน้าพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรคการเมือง ผู้ใดมีส่วนรู้เห็นหรือปล่อยปละละเลย หรือทราบถึงการกระทำดังกล่าวแล้วไม่ดำเนินการระงับการกระทำนั้น ให้ กกต.ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เพื่อเสนอคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ยุบพรรคการเมืองนั้น
          ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคการเมืองนั้น และให้มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค มีกำหนดเวลาห้าปี นับแต่วันที่มีคำสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น
          "มาตรา 103 วรรค 2 เขียนไว้แปลกๆ ยังไม่รู้จะแปลอย่างไร ว่าให้พวกผม(กกต.)ใช้วิจารณญาณหรือเปล่า ใช้ดุลยพินิจหรือเปล่าที่จะต้องยื่น(ศาลรัฐธรรมนูญ) หรือต้องยื่นโดยอัตโนมัติ ถ้าหากฟังว่ากรรมการบริหารพรรคกระทำความผิด" นายสุเมธ กล่าวในรายการวิทยุเช้านี้
          ส่วนการพิจารณาคำร้องของนายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายต้านคอรัปชั่น กรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทยหรือไม่นั้น นายสุเมธ กล่าวว่า ที่ประชุม กกต.อาจจะพิจารณาลงมติได้ในวันนี้หากพบว่าสำนวนที่เสนอมามีความสมบูรณ์ โดยไม่จำเป็นต้องขอหลักฐานหรือพยานเพิ่มเติม           
           พร้อมระบุว่า กกต.จะพิจารณาเรื่องนี้โดยดูจากประเด็นข้อเท็จจริงว่ามีการกระทำอย่างไรที่เข้าข่ายว่าเป็นนอมินี และการกระทำนั้นขัดต่อกฎหมายในมาตราใดของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 
          "จะพิจารณาประเด็นของข้อเท็จจริงว่าเขาทำอย่างไร และมาปรับว่ามันเข้ามาตราไหน ผิดมาตราไหน ตอนนี้ยังนึกไม่ออกว่าคำว่านอมินีจะเอามาตราไหน ผมดูเฉพาะใน พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 94 (3) เรื่องยุบพรรคว่า พรรคการเมืองกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ทีนี้ข้อเท็จจริงที่กล่าวหามันจะเข้าข้อนี้หรือไม่เท่านั้น" นายสุเมธ ระบุ