คณะทำงานพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน จัดเสวนา เวทีซักฟอกนอกสภาฯ ครั้งที่ 1 "แฉกระบวนการไอโอ ฉีกหน้ากากขบวนการเพิ่มความขัดแย้ง" พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย และอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวว่า การปฏิบัติการข่าวสาร Information Operation หรือที่เรียกว่า IO เป็นรูปแบบหนึ่งที่จะสื่อสารไปยังเป้าหมายเพื่อให้เชื่อความจริงที่เป็นความจริง และให้เชื่อว่าความจริงนั้นเป็นความเท็จ โดยในการนำไปปฏิบัติการทางทหารมี 3 เครื่องมือที่จะทำคือ ประชาสัมพันธ์ จิตวิทยา และข่าวสาร เครื่องมือนี้ในประเทศมหาอำนาจ เมื่อต้องปฏิบัติการนอกประเทศจะทำให้คนในพื้นที่นั้นเข้าใจว่าจะมากอบกู้ ดูแล จึงต้องมีเครื่องมือดังกล่าว แต่ในไทยกลับหัวกลับหางกัน มีการนำมาใช้ในทางทหาร เดิมจะใช้เพื่อความชอบธรรมเพื่อเข้าไปปฏิบัติการ แต่ต่อมามีการใช้เพื่อให้เกิดความแตกแยกเพื่อเข้าไปปฏิบัติการ และทำให้เกิดเหตุการณ์แทรกซ้อน เช่น เรื่องชายชุดดำ ตอนแรกอาจเป็นการสร้างขึ้น ต่อมาเกิดมีผู้อินกับเหตุการณ์ไปเป็นชายชุดดำจริงๆ
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกชั่วคราวพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ที่น่ากลัวตอนนี้คือ มีข้อเท็จจริงอยู่บ้าง แต่มีการใส่สีตีไข่ โยงเรื่องโน้นมาเรื่องนี้ออกมาให้มั่ว กรณีนักศึกษาอาจทำผิดจริงบ้าง แต่ต้องให้รับผิดชอบสิ่งที่เขาผิดเท่านั้น ห้ามโยงมาสรุปว่าเขาเป็นผู้ร้ายของประเทศ เพราะถ้าเขาหมดอาลัยตายอยากกับประเทศชาติ ถ้าสังคมไม่ปกป้องความจริง ปล่อยให้กระบวนการข่าวสารหลอกเรา บ้านเมืองไปไม่ได้ เศรษฐกิจแย่ ขอเตือนให้ฉุกคิด หันมารักกัน แม้ไม่ชอบกันก็อยู่ด้วยกันได้ คุยกันเรื่องอื่น แต่อย่าเกลียดกัน
นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า รัฐควรมีหน้าที่คุ้มครอง แต่เมื่อรัฐทำให้เกิดความเกลียดชัง มันจึงป่วยการที่จะพูดเรื่องสมานฉันท์ปรองดอง เรื่องเสรีภาพในการแสดงความเห็น ขอให้รัฐลดความหวาดระแวง ลดความกลัว เรื่องนี้คงไม่จบแค่นี้
"เราไม่ได้อยู่ในยุคที่จะปิดบัง ปิดตาคนได้ทั้งหมด เราต้องถูกตรวจสอบได้ ทหารก็ต้องถูกตรวจสอบ ไม่ควรใช้วิธีการทำให้คนอื่นด้อยค่า และยิ่งมาทำต่อผู้หญิงถือเป็นวิธีไร้ศักดิ์ศรีและสกปรก ส่วนที่ต่างประเทศพูดถึงประเทศไทย ต่อปฏิบัติการไอโอในประเทศ ที่ผ่านมามีทั้งผู้แทนจากกระทรวงยุติธรรมไปด้วย แต่การตอบเป็นการแก้ตัวมากกว่าแก้ปัญหา คนไทยเองก็ไม่รู้ว่ามีเรื่องแบบนี้จริง ซึ่งอยากให้นายกฯ ไปตอบคำถามนี้ด้วยตัวเอง
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ในฐานะประธานคณะทำงานพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน กล่าวว่า จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ผ่านมา มีเรื่องที่ใหญ่มากซึ่งตนถือว่าใหญ่กว่าอาชญากรรมอีกคือ การสร้างให้ประชาชนเกิดความเกลียดชัง แบ่งฝ่าย ไม่ว่าใครทำสิ่งนี้ ถือว่าทำให้ประเทศแตกแยก มีการใช้งบประมาณปี 63 ในส่วนที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ 2 พันล้านบาท งบอบรม 8 พันล้านบาท งบด้านความมั่นคงหมื่นกว่าล้านบาท และงบในพื้นที่ภาคใต้อีกหมื่นกว่าล้านบาท แต่กลับพบว่ามีการนำงบประมาณส่วนนี้ไปสร้างให้เกิดความแตกแยก เกลียดชัง ถือว่าเป็นการฆาตกรรมมวลชน