นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตัดสินใจ 2 ประการ คือ 1)โยกงบซื้ออาวุธของกองทัพทั้งหมดไปใช้แก้ปัญหาโควิด-19 และ 2)โยก ผบ.ทร. ให้ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลด รมช.กลาโหม เนื่องจากมีการนำเรื่องเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 31 มี.ค.63 ขออนุมัติให้กองทัพเรือดำเนินโครงการจัดหาเรือเอนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่สนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำระยะที่ 1 จำนวน 1 ลำมูลค่า มากกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 6,200 ล้านบาท) แม้ว่าจะถอนเรื่องออกจากวาระวานนี้แล้วก็ตาม
การเสนอใช้เงินภาษีของประชาชนจำนวนมหาศาลไม่ใช่เรื่องใหม่ของกองทัพเรือในยุคนี้ แม้ประเทศจะมีปัญหาภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ข้าวยากหมากแพงก็ตาม หากแต่กองทัพเรือกลับเดินหน้าขอจัดซื้อเรือดำน้ำ 3 ลำมูลค่า 36,000 ล้านบาท(ลำแรกราคา 13,500 ล้านบาท) รวมทั้งการสร้างบ้านพักรับรอง ผบ.ทร.ริมแม่น้ำเจ้าพระยามูลค่า 112 ล้านบาทอีกด้วย ดังนั้นการจัดซื้อจัดหาเรือลำเลียงพลสะเทินน้ำสะเทินบก (Landing Platform Dock หรือ LPD) จากจีนจึงไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมาย และได้ลงนามซื้อไปแล้วเมื่อ 9 ก.ย.62 แม้ที่ผ่านมา กองทัพเรือไทยมีเรือสะเทินน้ำสะเทินบกขนาดใหญ่อยู่ลำหนึ่งอยู่แล้วคือ เรือหลวงอ่างทองก็ตาม
"ลองคิดดูเงิน 6,200 + 13,500 ล้าน ที่กองทัพเรือใช้จัดซื้อจัดหายุทธโธปกรณ์ทั้ง 2 รายการข้างต้น หากโยกงบดังกล่าวไปช่วยแก้ไขปัญหาโควิด-19 ได้จะเป็นคุณูปการต่อสังคมไทยได้มหาศาลเพียงใด เริ่มจากสามารถใช้ซื้อชุดตรวจโควิด-19 รวมค่าแลป(คนละ 2,500 บาท) ใช้ตรวจให้คนไทยได้ถึง 7.88 ล้านคน ใช้ซื้อเครื่องช่วยหายใจ(เครื่องละ 1.5 แสนบาท) ได้ถึง 1,313,333 เครื่อง ใช้ซื้อหน้ากากอนามัยแจก(ชิ้นละ 2 บาท) ได้ 9,850 ล้านชิ้น ใช้ซื้อชุดป้องกัน PPE สำหรับแพทย์(ชุดละ 250 บาท) ได้ถึง 78.8 ล้านชุด แต่ถ้าจะนำไปสร้างโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย(โรงละ 100 ล้านบาท) จะได้ถึง 197 โรงเลยทีเดียว"นายศรีสุวรรณ ระบุ