ปชป.ระดมความเห็นคนพื้นที่ช่วยแก้ปัญหาชายแดนใต้ เป็นแนวทางให้รบ.ใหม่

          พรรคประชาธิปัตย์ ระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ใต้ ขณะที่ ผู้อำนวยการ ศูนย์บริหารชายแดนจังหวัดภาคใต้ คาดใช้เวลา 20 ปีในการแก้ไขปัญหา
          นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวในการระหว่างการสัมมนาจากอดีตปัจจุบันและอนาคตกับการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ ร่วมกับตัวแทนนักวิชาการจากทุกภาคส่วน ที่โรงแรมเจบีหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ว่า  การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ไม่จำเป็นจะต้องเป็นการดำเนินการเฉพาะพรรคที่เตรียมตัวเป็นรัฐบาลเท่านั้น 
          แต่ทุกพรรคการเมืองจะต้องช่วยกันศึกษาปัญหาในพื้นที่อย่างถ่องแท้ เพื่อให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งได้เข้ามาแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ผ่านการศึกษาข้อมูลจากทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะนำนโยบายวาระประชาชนมาใช้แก้ปัญหา ด้วยการระดมความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ 
          นายอภิสิทธิ์เชื่อมั่นว่าจะสามารถนำมาปฏิบัติและแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จริง แต่ขึ้นอยู่กับประชาชนจะให้โอกาสหรือไม่  และอนาคตพรรคจะชนะการเลือกตั้งหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญมากกว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไข และไม่เสียใจหากนโยบายถูกพรรคอื่นนำไปใช้แต่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งการแก้ปัญหาจะต้องใช้ทั้งความคิดและจิตใจ ปรับเปลี่ยนทัศนะคติของเยาวชนที่มีอุดมการณ์เกี่ยวข้องกับความรุนแรงทางความคิด จากการไม่ได้รับความเป็นธรรมในการใช้อำนาจรัฐ
          ทั้งนี้ควรมีการตั้งกลุ่มชุมชนมาสอดส่องดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ การบริหารจัดการมีกลไกในการแก้ปัญหาที่สอดประสานทำงานได้เต็มที่ รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงหลายฉบับอาจทำให้เกิดความสับสนในการทำงาน และควรมีบรรยากาศที่ปรองดองสมานฉันท์กับคนในพื้นที่ อย่างไรก็คามไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งเขตปกครองพิเศษ เพราะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้จริง แต่ควรใช้หน่วยงานที่มีอยู่ในพื้นที่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดร่วมกับประชาชนในพื้นที่
          ด้านนายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้  กล่าวว่า ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ต้องยอมรับความเป็นจริงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะพื้นที่ และต้องมีระบบราชการที่สอดรับกับความต้องการของประชาชนและแนวทางการพัฒนาทุกด้านจะต้องมีรูปแบบพิเศษที่แตกต่างจากพื้นที่อื่น ซึ่งเชื่อว่าการแก้ไขจะต้องใช้อีก 20 ปีข้างหน้าจึงจะแก้ได้เพราะต้องรอเยาวชนรุ่นใหม่ นำการศึกษามาปรับใช้ในการพัฒนาพื้นที่ แต่ทั้งนี้เชื่อว่า หลังเดือนพฤศจิกายนนี้ ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้จะไม่หนักไปกว่าเดิม เพราะรัฐบาลได้ใช้หลักสมานฉันท์ในการแก้ปัญหา รวมถึงน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของในหลวง เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา มาปรับใช้