"นพดล"เผยเตรียมจ้างทนายความมือดีหากทางการไทยขอให้อังกฤษส่งตัวข้ามแดน

ข่าวการเมือง Tuesday July 3, 2007 15:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว เผยเตรียมจ้างที่ปรึกษากฎหมายระดับมืออาชีพเพื่อต่อสู้คดีให้กับอดีตนายกรัฐมนตรี หากมีการเชื่อมโยงคดีไปสู่ขั้นตอนที่ทางการไทยขอให้รัฐบาลอังกฤษส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
"เรื่องนี้คงไม่ใช่ประเด็นที่จะนำข้อกฎหมายเรื่องดังกล่าวมาบังคับใช้ เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการเมือง ที่จริงใช้ทนายระดับพื้นๆ ก็ได้ แต่เราเตรียมจ้างทนายที่ดีที่สุด เป็นทนายที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี ระดับ Queen Council ไว้ต่อสู้คดีนี้" นายนพดล กล่าว
ที่ปรึกษากฎหมายฯ ยังยืนยันเรื่องที่มาของเงินซึ่งนำไปซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลแมนฯ ซิตี้ว่า เป็นเงินบริสุทธิ์ที่ได้มาโดยชอบ ไม่ได้ปิดบังซ่อนเร้นตามที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการยักย้ายถ่ายเทเงินจากการขายหุ้นชินคอร์ปอเรชั่น(SHIN) แต่เชื่อว่าการปล่อยข่าวออกมาต่างๆ เป็นระยะเพื่อต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของอดีตนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ตนเองอยากเรียกร้องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) รีบตรวจสอบการยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินของอดีตนายกรัฐมนตรี เพราะมั่นใจว่าที่ผ่านมาได้ดำเนินการอย่างถูกต้องครบถ้วนแล้ว
"การออกมาปล่อยข่าวเป็นเกมการเมืองตื้นๆ หากจะซ่อนก็คงเอาแอบไว้ใต้ถุนบ้าน แต่นี่เป็นการนำเงินไปลงทุน หากจะตรวจสอบขอให้เป็นไปตามเนื้อผ้า ไม่ใช่การตั้งธงเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อจะทำลายรายวัน" นายนพดล กล่าว
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่า ต้องการกลับประเทศไทยให้เร็วที่สุด และยังไม่คิดที่จะขอลี้ภัย แต่หากจำเป็นจริงๆ ก็สามารถทำได้ไม่ยาก เพียงใช้เวลาแค่ 3-4 เดือนเท่านั้น
"แต่เรา(ทางทีมทนาย) กลัวว่าเข้ามาแล้วจะถูกกลั่นแกล้งไม่ให้เดินทางออกไปอีก ตอนนี้อำนาจอยู่ที่ปากกระบอกปืน อะไรก็เกิดขึ้นได้ บางครั้งเราต้องคิดนอกกรอบบ้าง" นายนพดล กล่าว
ที่ปรึกษากฎหมายฯ กล่าวว่า หลังจากเลือกตั้งหากอดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยแล้วถูกออกหมายจับก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะถือว่ากระบวนการยุติธรรมในช่วงเวลานั้นน่าจะใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์
สำหรับความคืบหน้ากรณีที่อดีตนายกรัฐมนตรีเตรียมฟ้องร้องนั้นยังอยู่ในขั้นตอนที่ทีมกฎหมายกำลังทำสำนวนอยู่ ทั้งในส่วนของการขอถอนอายัดทรัพย์ การฟ้องรัฐบาลและ คตส.เสียงข้างมากที่มีมติให้ยึดทรัพย์
ส่วนกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI)ออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหากกรณีปกปิดข้อมูลโครงสร้างผู้ถือหุ้น บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น(SC) นั้น ทางอดีตนายกรัฐมนตรีและภริยาจะไม่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ตนเองเห็นว่าเป็นคดีที่มีความผิดเล็กน้อย ความจริงอธิบดี DSI ควรไปดูคดีใหญ่ๆ ที่สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ อย่างคดี ปรส.มากกว่า
"พอจะคาดเดาได้ว่าไม่มา อยากขอร้อง DSI ว่าเรื่องนี้เป็นคดีจิ๊บจ๊อย ไปทำคดี ปรส.ที่ทำให้ชาติเสียหายเป็นแสนล้านดีกว่า ไม่รู้ว่าท่านอธิบดีไปนั่งทับอยู่หรืออย่างไร ไม่อยากให้เลือกปฏิบัติ" นายนพดล กล่าว
ที่ปรึกษากฎหมายฯ กล่าวว่า ตนเองเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศอังกฤษ ซึ่งได้ไปพบกับอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้มีความเป็นห่วงครอบครัว โดยเฉพาะเห็นใจที่คุณหญิงพจมานต้องแยกไปอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งคาดว่าเร็วๆ นี้คุณหญิงพจมานคงจะเดินทางไปสมทบกับอดีตนายกรัฐมนตรีที่ประเทศอังกฤษ
"ท่าน(ทักษิณ)เป็นห่วงครอบครัวที่ต้องแยกกันอยู่ และมีความเห็นใจที่คุณหญิง(พจมาน)ที่ต้องแยกกันอยู่ ซึ่งคุณหญิงคงเดินทางไปสมทบที่อังกฤษ...ท่านบอกว่าทำกับท่านอย่างมาก ช่วง 5-6 ปีที่ทำมาไม่มีอะไรดี จ้องล้างเอาผิดทุกอย่าง จะทำอะไรกันมากขนาดนี้" นายนพดล ระบุ
ด้าน นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ประเทศไทยจะใช้การเจรจาทางด้านการทูตกับประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาระหว่างกันในการส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน หากไม่สามารถใช้ช่องทางด้านกฎหมายได้
"หากประเทศใดไม่เข้าข่ายมีสนธิสัญญาต่อกัน ก็จะใช้หลักด้านการทูตในการเจรจาขอตัว ถ้าเราไม่มีสนธิสัญญาก็จะใช้หลักถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกัน" นายชาญชัย กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ