นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญทั่วไปในวันที่ 22 พ.ค.นี้ ซึ่งยังอยู่ในช่วงที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินว่า สภาฯ กำลังรอความชัดเจนจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ที่จะเคาะมาตรการต่างๆ ออกมา ไม่เช่นนั้นจะทำให้ พ.ร.ก.กู้เงิน และร่าง พ.ร.บ.โอนจ่ายงบประมาณ ค้างอยู่ในสภาฯ เนื่องจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน บางมาตรการจะส่งผลกับการทำหน้าที่ของ ส.ส.ในสภาฯ เช่น การงดหรือชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด การงดกิจกรรมรวมตัว และการประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหะสถานในเวลาที่กำหนด
นายชวน กล่าวด้วยว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก จะใช้ห้องประชุมพระสุริยัน ซึ่งมีความพร้อมสมบูรณ์แล้ว ทั้งระบบการถ่ายทอด ระบบเสียง และการวางมาตรการเว้นระยะห่างภายในห้องประชุม
ด้านนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ขอรอดูมติคณะรัฐมนตรีวันนี้ก่อน แต่มองว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไม่มีผลกีดขวางการทำหน้าที่ของ ส.ส.ได้ เพราะรัฐธรรมนูญให้ความคุ้มครองอยู่ เห็นได้จากปัจจุบัน ส.ส.ยังคงเดินทางเข้ามาทำหน้าที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ได้ตามปกติ เพียงแต่ที่ผ่านมา สภาฯ ได้ขอความร่วมมือให้งดเว้นการประชุม อีกทั้งหากสถานการณ์คลี่คลายลงในช่วงเวลาดังกล่าว นายกรัฐมนตรีก็อาจมีคำสั่งปลดล็อคมาตรการลงได้
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญทั่วไปที่จะเปิดประชุมวันที่ 22 พ.ค.นี้ ในช่วงที่ประกาศใช้พ.ร.ก.การบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน ถือเป็นดุลยพินิจของประธานสภาผู้แทนราษฎรว่าหลังจากมีพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมแล้ว ประธานสภาฯ จะเรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่
"หากเห็นว่ามีอุปสรรค สามารถงดการประชุมได้ ยืนยันว่ามติวิปรัฐบาลที่ไม่เห็นด้วยกับการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญในช่วงเวลานี้ เพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังไม่หมด อีกทั้งเห็นว่าอีกไม่นานจะเปิดประชุมสภาฯ สมัยสามัญอยู่แล้ว จึงอยากให้ฝ่ายค้านใช้เวทีแก้ไขปัญหาในช่วงการประชุมปกติ" ประธานวิปรัฐบาล กล่าว