นายกฯจะปรับแนวทางดูแลม็อบให้รัดกุม หวั่นเกิดปัญหาจราจลเสียเลือดเนื้อ

          พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลดูแลปัญหาการชุมนุมอย่างดีที่สุดแล้ว แต่จะปรับปรุงแนวทางการดำเนินการให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการเสียเลือดเนื้อจากเหตุการณ์ความรุนแรง 
          "รัฐบาลพยายามทำดีที่สุด พยายามดูแลไม่ให้มีปัญหาการใช้ความรุนแรง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ใช้(พ.ร.บ.ฉุกเฉิน) การจะใช้ยาอ่อนหรือยาแรง ก็พิจารณาไปตามสถานการณ์ คงบอกไม่ได้ว่าจะใช้ยาอย่างนี้อย่างเดียว" พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว
          นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากนี้ไปหากมีการชุมนุมขึ้นอีกจะต้องทำความตกลงกับกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ที่กำหนด เพราะอาจเกิดปัญหาการละเมิดสิทธิของผู้อื่นและการทำผิดกฎหมาย เช่น การทำลายทรัพย์สินของราชการ หรือการทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งหากเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหมือนคืนวันที่ 22 ก.ค.อีก และคิดว่าเรื่องนี้ต่างประเทศคงจะเข้าใจว่าเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นมาจากกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มใช้ความรุนแรงก่อน
          "เราคงต้องระมัดระวัง ถ้าตกลงกันได้ก็อนุญาต(ให้ชุมนุม) แต่ถ้าเกินเลยก็ต้องทำตามกฎหมาย...รัฐบาลไม่ได้มีอำนาจเบ็ดเสร็จว่าจะได้รับโทษอย่างไร" นายกรัฐมนตรี ตอบข้อซักถามถึงการใช้ความเด็ดขาดในการดูแลการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ(นปก.)
          พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้การสนับสนุนกลุ่มนปก.ว่า ยังไม่มีข้อมูลเรื่องนี้เป็นแค่เพียงการคาดคะเนเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามว่ามีความเชื่อมโยงกันมากน้อยเพียงใด
          ส่วนกรณีที่อดีตนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปในแต่ละประเทศ ตลอดจนการเปิดเว็บไซต์ ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล รัฐบาลคงไม่สามารถจะห้ามได้ แต่กรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะขอลี้ภัยโดยอ้างสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองคงไม่สามารถทำได้ เพราะการกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่เรื่องทางการเมือง แต่เป็นคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับการคอรัปชั่น ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)ดำเนินการคืบหน้าไปมากแล้ว