สหรัฐหนุนข้อเรียกร้องยูเอ็นเพิ่มบทบาทนำสันติภาพ-เสถียรภาพมาสู่อิรัก

          ทูตสหรัฐประจำสหประชาติ หรือยูเอ็นเปิดเผยว่า สหรัฐให้การสนับสนุนข้อเรียกร้องของนายบัน กี-มุ เลขาธิการยูเอ็นที่ให้ประชาคมโลกเพิ่มบทบาทในการให้ความช่วยเหลือประเทศที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความขัดแย้งอย่างอิรักให้เป็นประเทศที่มีกองกำลังในระดับที่เหมาะสมในภูมิภาค
          นิตยสารนิวยอร์กไทมส์รายงานคำกล่าวของนายซัลเมย์ คาห์ลิลซัด เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติว่า "สหรัฐเห็นด้วยกับคำกล่าวของนายบัน กี-มุนที่ต้องการให้สหประชาชาติเพิ่มบทบาทในการช่วยให้อิรักกลายเป็นประเทศที่มีสันติภาพและเสถียรภาพ ซึ่งจะกลายเป็นประเทศพันธมิตรที่มีสันติภาพและมีความมั่นคงในประชาคมโลก อีกทั้งยังมีกองกำลังที่เหมาะสมในภูมิภาค "
          นายคาห์ลิลซัดซึ่งทำหน้าที่เป็นทูตสหรัฐในประเทศอิรักเมื่อปี 2548 จนถึงเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้เน้นย้ำคำกล่าวของนายบันหลังจากที่ได้เข้าประชุมกับประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุชของสหรัฐที่ทำเนียบขาวว่า สหประชาชาติพร้อมที่จะช่วยเหลือรัฐบาลและประชาชนชาวอิรัก
          นอกจากนี้ เขากล่าวว่า ประชาคมโลกเพิ่งแต่งตั้งทูตพิเศษของสหรัฐคนใหม่ เพื่อประจำการในอิรักแทนนายอาชราฟ เจฮานจี กาซี และคณะมนตรีความมั่นคงได้กำหนดภารกิจใหม่ในอิรัก ซึ่งทูตสหประชาชาติคนใหม่จะทำหน้าที่ในการช่วยชาวอิรักให้สามารถดำเนินภารกิจให้เสร็จสิ้นในหลายด้าน ได้แก่ การกำหนดกฏหมายด้านรายได้จากการจำหน่ายน้ำมัน การปฏิรูปกฏหมายต่อต้านการปกครองของพรรคบาธที่มีความขัดแย้งมาเป็นเวลานาน การถอนกองกำลังทหารในประเทศ และข้อตกลงในการผู้ต่อต้านรัฐบาลกบฏให้ยกเลิก
          อย่างไรก็ตาม ทูตสหรัฐประจำยูเอ็นกล่าวว่า ประเทศพันธมิตรในสงครามอิรักที่นำโดยสหรัฐจำเป็นต้องตรึงกำลังทหารในอิรักเพื่อสร้างความมั่นคงที่ดีในเบื้องต้นต่อการกำหนดยุทธศาสตร์ใหม่ในอิรัก และให้ความร่วมมือกับสหประชาชาติเพื่อสร้างความมั่นใจว่ายุทธศาสตร์ทางการทหารจะสามารถสนับสนุนความพยายามในการสร้างความปรองดองกันในชาติและในภูมิภาคได้"