นายจาตุรนต์ ฉายแสง หัวหน้ากลุ่มไทยรักไทย กล่าวว่า กรณีที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) และ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ระบุว่ามีขบวนการขวางการจัดทำประชามติ รวมทั้งต้องการคว่ำรัฐธรรมนูญนั้นน่าจะเป็นการพยายามสร้างสถานการณ์ วาดภาพเพื่อบีบให้ประชาชนไปสนับสนุนการลงประชามติเพียงอย่างเดียว เป็นการบิดเบือนความหมายของการจัดทำประชามติที่ประชาชนสามารถแสดงความเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยและลงคะแนนโดยอิสระ รวมทั้งให้ประชาชนมีสิทธิเคลื่อนไหวเพื่อแสดงความเห็นได้
"ทั้งพลเอกสนธิและน.ต.ประสงค์ต่างมีบทบาทโดยตรงเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญ การพูดชี้นำและปิดทางไม่ให้ประชาชนแสดงความไม่เห็นด้วยเท่ากับผิดมารยาท เพราะเป็นการข่มขู่ บีบบังคับให้ประชาชนเห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ" นายจาตุรนต์ กล่าว
หัวหน้ากลุ่มไทยรักไทย กล่าวว่า การจัดทำประชามติในครั้งนี้จึงเสียความหมายไป เพราะมีการบอกว่ารัฐธรรมนูญต้องผ่านประชามติจึงจะมีการเลือกตั้ง การพูดเช่นนี้ทำให้ประชาชนไขว้เขว ความจริงแล้วมันเป็นการบิดเบือน เพราะสิ่งที่ถูกต้องคือไม่ว่าประชามติจะผ่านหรือไม่ การเลือกตั้งย่อมเกิดขึ้นอยู่ดี หากประชามติไม่ผ่าน คมช.และรัฐบาลต้องนำรัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่งมาแก้ไข บังคับใช้และจัดการเลือกตั้ง
"รัฐบาล คมช. กกต.และ สสร.ต้องอธิบายให้ประชาชนทราบว่า ไม่ว่าประชามติจะผ่านหรือไม่ ต้องเกิดการเลือกตั้งแน่นอน หากประชาชนเห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นประชาธิปไตยก็ให้ผ่าน หากไม่ดี ไม่เป็นประชาธิปไตยก็ไม่ผ่าน รวมทั้งต้องระบุให้ชัดก่อนการลงประชามติว่าจะนำรัฐธรรมนูญฉบับใดมาแก้ไข และจะแก้ไขส่วนใดบ้าง" นายจาตุรนต์ กล่าว
หัวหน้ากลุ่มไทยรักไทย กล่าวว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเร็วหรือช้านั้น ทางกลุ่มเห็นว่าไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สิ่งสำคัญคือ การเลือกตั้งมันจะบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างไร จะกีดกันกลั่นแกล้งพรรคหรือกลุ่มการเมืองที่ไม่สนับสนุน คมช.หรือไม่ ปัญหาขณะนี้นี้คือเกิดความพยายามสืบทอดอำนาจเผด็จการที่ชัดเจนแล้ว และมีความเสี่ยงที่ประเทศจะอยู่ภายใต้ระบบเผด็จการทหารอีกยาวนาน แผนบันได 4 ขั้น ร่าง พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร เป็นต้น
"หากเป็นเซลล์ก็กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีดีเอ็นเออย่างเดียวกันคือเผด็จการ" นายจาตุรนต์ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย รฐฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--