นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติขยายเวลาการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่ 1-30 มิ.ย.63 ตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอ โดยพิจารณาปัจจัยในเรื่องสาธารณสุขเป็นหลัก ส่วนมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3 และ 4 จะมีความชัดเจนมากขึ้นหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) วันศุกร์นี้ (29 พ.ค.)
นางนฤมล ระบุว่า พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวตอบคำถามถึงกรณีที่มีบางกลุ่มยื่นคัดค้านการขยายเวลาบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ต่อไปอีก 1 เดือนว่า การที่รัฐบาลนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาบังคับใช้ รวมถึงการพิจารณาต่ออายุ พ.ร.ก.ในแต่ละครั้งนั้น เป็นการพิจารณาโดยคำนึงถึงเหตุผลทางด้านสาธารณสุขเป็นหลัก ไม่ใช่เหตุผลทางการเมือง
การมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ช่วยทำให้การทำงานร่วมกันของหลายหน่วยงานมีเอกภาพ ซึ่งคงไม่สามารถใช้แค่ พ.ร.บ.โรคติดต่อ เพียงเครื่องมือเดียวในการแก้ปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ อีกทั้งประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่การผ่อนปรนมาตรการในระยะที่ 3 ในช่วงต้นเดือนมิ.ย.นี้ และระยะที่ 4 ในช่วงหลังจากนั้น เพราะฉะนั้นจึงมีความจำเป็นต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ เพื่อให้เป็นเครื่องมือในการกำกับดูแลสถานการณ์ให้ผ่านไปได้ด้วยดี
ทั้งนี้ รัฐบาลทราบดีว่าประชาชนไม่ได้รับความสะดวกจากการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงได้ค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการลงเพื่อให้กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนน้อยที่สุด และอยากให้ประชาชนเข้าใจเป้าหมายของในการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว ก็เพื่อต้องการให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทิศทางที่ดี ให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตกันได้อย่างปกติแต่เป็นในรูปแบบของ New Normal และไม่มีการกลับมาระบาดเป็นรอบที่สอง