นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยว่าถึงแนวทางของพรรคร่วมฝ่ายค้านในการลงมติพ.ร.ก. 4 ฉบับว่า วิปฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านจะหารือร่วมกันในพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) แต่เชื่อว่าจะไม่ใช่การฟรีโหวต ซึ่งการลงมติในแต่ละฉบับอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถตอบได้
"ระดับหัวหน้าพรรค จะพูดคุยกันให้เกิดความเข้าใจและจะเป็นมติร่วมกัน บรรยากาศการอภิปรายที่ผ่านมาเป็นไปด้วยดี เพราะไม่มีการประท้วง และไม่กังวลว่าจะมีงูเห่าในฝ่ายค้าน เพราะรัฐบาลมีเสียงข้างมากพอแล้ว ทำให้งูเห่าตกงาน และรัฐบาลเองก็ไม่เลี้ยงงูเห่าแล้ว ทุกคนจึงอยู่ในที่ตั้ง" นายสุทินกล่าว
สำหรับความเป็นไปได้ในการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบการใช้เงินกู้นั้น นายสุทิน กล่าวว่า ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วยก็สามารถตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญได้ ซึ่งเท่าที่ฟังการอภิปรายมีนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ที่เห็นด้วย แต่ไม่แน่ใจว่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลคนอื่นจะเห็นด้วยหรือไม่ เพราะหากใช้เสียงฝ่ายค้านเพียงอย่างเดียวจะไม่พอต่อการตั้งคณะกรรมาธิการ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ฝ่ายค้านจะเดินหน้าสร้างกระบวนการการตรวจสอบโดยภาคประชาชนแทน
นายสุทิน ยังกล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณว่า สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาในวันที่ 5-6 มิ.ย.นี้ ซึ่งเท่าที่ทราบ รัฐบาลต้องการให้มีการพิจารณาเต็มสภาด้วยการตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อลงมติทั้ง 3 วาระรวดให้แล้วเสร็จในคราวเดียว
ทั้งนี้ ฝ่ายค้านยืนยันว่าจะไม่ปรับตัวเลขงบประมาณตามร่างกฎหมายงบประมาณ แต่ในทางกลับกันจะขอให้มีการปรับเพิ่มงบประมาณ 15% แทนด้วยการเกลี่ยงบประมาณประจำปี 2563 ในส่วนรายการที่ไม่จำเป็น เช่น การจัดซื้ออาวุธ และการอบรมสัมมนา เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะให้ได้เงินราว 6 แสนล้านบาท และช่วยทำให้การกู้เงินลดลง
สำหรับพ.ร.ก. 4 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 วงเงิน 1 ล้านล้านบาท, พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 วงเงินไม่เกิน 500,000 ล้านบาท, พ.ร.ก.การรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ. 2563 วงเงินไม่เกิน 400,000 ล้านบาท และพ.ร.ก.ว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2563