นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการตั้งกรรมาธิการวิสามัญติดตามตรวจสอบการใช้เงินตาม พ.ร.ก.กู้เงินว่า จะมีการหารือในที่ประชุมวิปรัฐบาลครั้งหน้า ซึ่งมีแนวโน้มที่จะให้ตั้งกรรมาธิการฯ ชุดนี้ขึ้น โดยขณะนี้ 2 พรรคได้ยื่นญัตติไปแล้วคือ พรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่พรรคพลังประชารัฐก็ไม่ขัดข้อง
"คาดว่าจะสามารถตั้งกรรมาธิการฯ ได้ราววันที่ 10 หรือ 11 มิ.ย. เพราะไม่น่าจะทันในการประชุมสภาฯสัปดาห์นี้ เนื่องจากมีวาระที่ต้องพิจารณาเรื่องด่วนของรัฐบาล คือ พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วงเงิน 8.8 หมื่นล้านบาทก่อน" นายวิรัชกล่าว
พร้อมระบุว่า ไม่มีปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาล ดังจะเห็นได้จากการลงมติที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเสียงของรัฐบาลก็มีความเข้มแข็งขึ้น อีกทั้งไม่เชื่อว่าจะเกิดปัญหาภายในจนทำให้รัฐบาลระส่ำระสาย ส่วนความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐนั้น เชื่อว่าถึงเวลาสามารถพูดคุยกันได้
"ไม่คิดว่าปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้รัฐบาลระส่ำระสาย ส่วนจะมีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารพรรคหรือไม่นั้น ต้องรอดูผลประชุมใหญ่ แต่ในขณะนี้ยังไม่มีกำหนดว่าจะประชุมใหญ่เมื่อไร" นายวิรัชกล่าว
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ออกมาเปิดเผยว่ามีการหักค่าหัวคิวให้ ส.ส.คนละ 80 ล้านบาท จากงบฟื้นฟูเศรษฐกิจว่า ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน แต่ทุกฝ่ายสามารถติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณได้อยู่แล้ว โดยหากมีข้อข้องใจหรือสงสัยสามารถทำเป็นบันทึกสอบถามหรือตั้งกระทู้ถามได้ แม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่การออกมาเปิดเผยก็สามารถทำให้เป็นข่าวพาดหัวหน้าหนึ่งได้
ส่วนเรื่องนี้จะเป็นเหตุให้ต้องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายเงินกู้หรือไม่นั้น ประธานสภาฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสภาเป็นผู้พิจารณา และมีการยื่นญัตติเรื่องนี้มาแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการบรรจุญัตติในวาระการพิจารณาของสภาฯ เนื่องจากในสัปดาห์หน้าจะต้องพิจารณาพ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563