ปชป.แนะรัฐบาลลดราคาเบนซินและดีเซลช่วยส่งออกในช่วงบาทแข็ง

          นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แถลงวันนี้ว่า รัฐบาลควรใช้มาตรการลดต้นทุนการผลิตและการบริโภคด้วยการลดราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลโดยทันทีด้วย การลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเพื่อช่วยเหลือประชาชนและภาคการผลิตภาคการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันและค่าเงินบาทที่แข็งตัวเกินไปทำให้เศรษฐกิจยังโงหัวไม่ขึ้น 
          "รัฐบาลสามารถลดราคาเบนซินได้ลิตรละ 2 บาทและ ดีเซล 1 บาทต่อลิตร จะทำให้ลดต้นทุนน้ำมันของประชาชนและภาคเศรษฐกิจได้โดยตรงปีละ 35,000 ล้านบาทโดยไม่มีผลกระทบต่อกลไกตลาดของราคาน้ำมันเพราะเป็นการลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเพิ่มเติมจากราคาตลาดปกติ ปัจจุบันรัฐบาลเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันสำหรับเบนซิน 95 สูงถึง 3.46 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 ที่ 3.26 บาทต่อลิตร ดีเซล 1.50 บาทต่อลิตร"
          นายอลงกรณ์กล่าวว่า รัฐบาลไม่จำเป็นต้องเร่งรัดการใช้หนี้กองทุนน้ำมันที่รัฐบาลทักษิณก่อไว้ 9.2 หมื่นล้านบาทให้เสร็จในปีนี้ เพราะขณะนี้กองทุนมีหนี้อยู่ประมาณ 3.27 หมื่นล้านบาท ขณะที่กองทุนน้ำมันมีเงินสดในบัญชี 1.52 หมื่นล้านบาท ทำให้เป็นหนี้สุทธิ 1.75 หมื่นล้านบาทเท่านั่น และควรใช้กองทุนน้ำมันในการช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจในจังหวะที่เหมาะสมไม่ต้องรอการตัดสินใจของรับบาลหน้าเพราะปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนต้องมาก่อน โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรและประมง กลุ่มขนส่ง และกลุ่มส่งออก
          พร้อมกันนี้ นายอลงกรณ์ ยังเสนอให้นายปิยะสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รมว.พลังงานให้เร่งประกาศยกเลิกการใช้สารเอ็มทีบีอี.(MTBE)ที่ผสมในน้ำมันเบนซิน 95 โดยทันทีทั่วประเทศเพราะเป็นสารก่อมะเร็ง และเร่งรัดการส่งเสริมเอทานอลเพื่อทดแทนเบนซิน 95 และเบนซิน 91 ซึ่งผลิตจากมันสำปะหลังและอ้อยโดยจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้ลืมตาอ้าปากได้และส่งเสริมการพึ่งพาตนเองไม่ต้องน้ำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ