นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงสถานะภายในพรรคว่า ขณะนี้ยังทำงานตามปกติแม้ว่าจะมีกระแสข่าวกดดันให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งหากมีโอกาสก็คงจะหารือกับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงษ์ รมว.พลังงาน และ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ว่าจะกำหนดอนาคตทางการเมืองกันอย่างไร
ส่วนตอนนี้จะถอดใจหรือไม่เพราะถูกโจมตี นายสุวิทย์ ย้ำว่า เราทำงานจนถึงวินาทีสุดท้าย และตอนนี้มีความคิดเห็นที่หลากหลาย ซึ่งที่จริงควรมานั่งคุยกันว่าการเมืองหลังโควิด-19 จะเป็นอย่างไร
"ส่วนหนึ่งถือเป็นสปริต เรามาด้วยกันก็ไปด้วยกัน แต่ไม่เกี่ยวกับการทำงาน เมื่อก่อนเราถูกมองว่าเป็น 4 กุมาร แต่ตอนนี้เหลือ 3 คน เพราะอีก 1 คนยังช่วยงาน อาจารย์สมคิด (จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี) อยู่ ซึ่งตอนนั้นที่เราลาออกจากรัฐบาลเฉพาะกิจเพราะต้องไปตั้งพรรคใหม่ ผมก็ไปช่วยเรื่องการขับเคลื่อนนโยบาย"นายสุวิทย์ กล่าว
ส่วนการตัดสินใจทางการเมืองจะโยงกับการตัดสินใจของนายสมคิดหรือไม่ นายสุวิทย์ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในพรรค เพราะ 4 กุมารเป็นกรรมการบริหารพรรค แต่ในฐานะที่นายสมคิดเป็นอาจารย์ของตนและสนับสนุน 4 กุมารมาโดยตลอด ดังนั้น การตัดสินใจก็ต้องแล้วแต่นายสมคิดด้วย
นายสุวิทย์ ยังระบุถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค พปชร.เพื่อปรับ ครม.ว่า ที่จริงแล้วการปรับ ครม.เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี และอย่าโยงว่าการเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคจะต้องปรับ ครม. ซึ่งไม่เกี่ยวกัน ซึ่งการตัดสินใจของรัฐมนตรีทั้ง 3 คนก็ต้องให้เกียรติกับนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้เลือกเรามา หากนายกรัฐมนตรีให้อยู่เราก็อยู่ หากให้ไปก็ไป ก็ต้องเป็นไปตามนั้น
สำหรับการทำงานของตนเอง ภารกิจที่ได้รับมอบหมายถือว่านายกรัฐมนตรีให้ความไว้วางใจที่ให้มาทำหน้าที่ในกระทรวงใหม่ และเมื่อทำงานในระดับหนึ่งก็ไม่อยากให้ใครมองว่าทิ้งกระทรวง แม้ว่ากกรทำงานมาเกือบปีก็ถือว่าพอแล้ว ได้สร้างฐานรากพอสมควร ก็เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีใหม่ ส่วนการที่นายกรัฐมนตรีจะให้ตนเอง รวมถึงนายอุตตมและนายสนธิรัตน์ อยู่ในตำแหน่งต่อไปหรือไม่ก็สุดแล้วแต่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจนายกรัฐมนตรี แต่วันนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร
ทั้งนี้ การตัดสินใจของแต่ละคนแตกต่างกัน แต่จะตัดสินใจอย่างไรก็ต้องหารือกับนายกรัฐมนตรี พร้อมยอมรับว่าการที่ตนเองไม่ได้ใกล้ชิดกับพรรคถือเป็นข้อบกพร่องและเป็นจุดอ่อนที่ถูกโจมตี ซึ่งก็พร้อมปรับปรุง และที่ผ่านมางานของกระทรวงที่รับผิดชอบอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง หากมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ตนเองคงไม่ลงคัดเลือก ตอนนี้ขอทำงานให้เต็มที่ก่อนเท่านั้น
"ยังไม่มีโอกาสที่จะพูดกันทั้ง 3 คนและยังไม่ได้หารือว่าจัดประชุมใหญ่พรรคเมื่อใด ซึ่งวันพรุ่งนี้ (9 มิ.ย.) ในการประชุม ครม. คงได้คุยกัน"นายสุวิทย์ กล่าว