พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวย้ำว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถ้าถึงเวลาก็จะปรับเอง หลังจากมีแรงกดดันจากฝ่ายการเมืองให้มีการเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นแกนนำของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งการจะปรับ ครม.หรือไม่นั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของพรรค พปชร. และยังไม่ได้คุยกับรัฐมนตรีในทีมเศรษฐกิจทั้งสามคนของพรรค พปชร.
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ปรับคณะรัฐมนตรี ดังนั้นไม่ต้องมาเสนอตัวมาตอนนี้ เพราะทุกคนยังต้องทำงานแก้ไขปัญหาของประเทศชาติ รัฐมนตรีทุกคนยังคงทำงานได้อย่างเต็มที่ และได้สั่งการในที่ประชุม ครม.ให้ทุกคนเดินหน้าแก้ปัญหาให้ผ่านพ้นไป
"ใครจะเป็นหรือไม่เป็น ผมยังไม่ได้คิด วันนี้ขอทำงานไปก่อน กรุณางดเสนอข่าวพวกนี้ได้แล้ว มันเหมือนดราม่า มันเหมือนละครสักเรื่อง ก็เหมือนดูละครต้องย้อนมาดูตัว"พลเอกประยุทธ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่พรรค พปชร.อาจเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ นายกรัฐมนตรี มองว่า ไม่ได้มีข้อขัดข้อง เพราะเป็นเรื่องภายในพรรค และคงไม่กระทบกับการทำงานใน ครม. เพราะเป็นเรื่องที่พล.อ.ประวิตรต้องบริหารเวลาให้ได้ ตนเองมีหน้าที่ทำงานร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีทุกคน ดังนั้น พล.อ.ประวิตร ก็ต้องทำทั้ง 2 หน้าที่ให้ได้
"เป็นเรื่องของท่าน ท่านต้องบริหารให้ได้ ผมมีหน้าที่ทำงานร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี ท่านต้องทำทั้ง 2 งานให้ได้ ถ้าท่านจะทำตรงโน้น ก็ต้องทำตรงนี้ให้ได้เหมือนเดิม"พลเอกประยุทธ์ กล่าว
พร้อมกับยืนยันว่า การปรับครม.ไม่ได้ยึดโยงกับการทำงานของพรรคการเมือง เพราะเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะพิจารณาจากสัดส่วนของแต่ละพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนความกังวลต่อทีมเศรษฐกิจใน ครม.ที่ประชาชนอาจไม่เชื่อมั่นหลังมีข่าวว่าอาจจะมีปรับเปลี่ยนนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่ได้มองว่าใครจะหลุดออกจากตำแหน่งบ้าง แต่อยากให้ทุกคนที่อยู่ตำแหน่งทำงานให้ดีที่สุด
ส่วนจะมีวิธีจะสยบกับข่าวร้อนในขณะนี้อย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า คงทำได้แค่ขอร้องอย่าพูดกัน เพราะคนที่จะตัดสินใจปรับ ครม.ก็คือตนเอง ไม่ใช่หัวหน้าพรรค เพียงแต่แต่ละพรรคก็ให้ไปเตรียมบุคคลที่เหมาะสม และหากถึงเวลาปรับ ครม.ก็จะนำมาพิจารณาเอง
สำหรับกรณีที่ 3 รัฐมนตรีเตรียมนัดหารือกันนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ให้ไปคุยกันเอง แต่ตนเองคงไม่คุยด้วย
ขณะที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร. เปิดเผยว่า ปัญหาการเมืองภายในพรรคก็เป็นเรื่องทางการเมือง แต่ตนเองยังทำหน้าที่ในงานของด้านพลังงานต่อเนื่องเป็นปกติ และหวังจะใช้งานด้านพลังงานในการคลี่คลายผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน