แกนนำพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี ในฐานะประธานภาคอีสาน พร้อมด้วย ส.ส.ของพรรค ร่วมแถลงตอบโต้กระแสข่าวความแตกแยกภายในพรรคแยกออกไปตั้งพรรคใหม่
นายสมพงษ์ กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคได้ทำงานร่วมกับคุณหญิงสุดารัตน์ อย่างกลมเกลียวกันดีมาโดยตลอด ไม่มีอุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น เข้าอกเข้าใจกันดี ในภาพรวมของการทำงานอาจมีเรื่องติดขัดกันบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่แก้ไขได้ เพื่อให้ประโยชน์สูงสุดตกอยู่ที่พรรค
"ในการทำงานของพรรค เราแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดแจ้ง ตนดูแลในสภาผู้แทนราษฎร ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ดูแลเกี่ยวด้านยุทธศาสตร์ สิ่งใดที่ท่านเข้าใจผิด ขอให้เข้าใจด้วยว่าเราทำงานกันกลมเกลียวอย่างจริงจัง ไม่เชื่อท่านลองสอบถามสมาชิกพรรคพท.ได้เลย แต่แน่นอน การทำงานอาจจะติดขัดกันบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ สามารถทำความเข้าใจกันได้ ไม่มีอุปสรรคใดๆทั้งสิ้น"นายสมพงษ์ กล่าว
ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า วันนี้พรรคทำงานอย่างกลมเกลียวกัน มีการหารือกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเข้มแข็ง สามารถเป็นที่พึ่งที่หวังในยามที่ประชาชนกำลังท้อแท้ หมดหวัง ต่อปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ
"เราไม่มีเวลามาทะเลาะกัน ทุกคนที่ได้รับเลือกตั้งมา ล้วนได้รับเลือกตั้งมาจากความไว้วางใจของพี่น้องประชาชน เขาคาดหวังว่าเราจะเป็นปากเสียง และแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ข่าวที่ออกมาระยะเวลา 2-3 อาทิตย์ พวกเราไม่สบายใจ เพราะเป็นแหล่งข่าวที่เราไม่สบายใจ เป็นแหล่งข่าวที่ออกมาทำลายความเชื่อมั่นต่อประชาชน ต่อพรรคพท. ซึ่งไม่เป็นความจริง"คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
ด้านนายสุทิน กล่าวว่า ข่าวที่ปรากฎออกมาไม่เป็นความจริง ใครเจตนาปล่อยข่าวให้พรรคเสียหายก็ขออย่าทำอย่างนั้นเลย
"เราเข้าใจเรื่องการการออกไปตั้งพรรคเป็นเรื่องปกติ และควรสนับสนุนด้วยเพราะรัฐธรรมนูญเป็นแบบนี้ เพียงแต่ว่าการไปสื่อสาร หรือการเสนอออกจ่าวไปไม่น่าจะทำให้มีผลให้พรรคเดิมเสียหาย"นายสุทิน กล่าว
นายสุทิน กล่าวอีกว่า บทพิสูจน์ที่จะสะท้อนเอกภาพของพรรค คือ อยากให้ดูที่ผลงาน การบริหารพรรคที่ยังเดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ กลไกทุกส่วนยังปกติ การอภิปราย พ.ร.ก.กู้เงินที่ผ่านมา พรรคก็ภูมิใจในผลงาน และทำหน้าที่ได้อย่างดี เพราะมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ทำให้ผลงานออกมาดี
ส่วนที่ผ่านมาก่อนหน้านี้พรรคฝ่ายค้านอาจจะมีปัญหาขลุกขลักไปบ้าง แต่ก็เป็นประสบการณ์ใหม่ที่เพิ่งกลับเข้ามาเป็น ส.ส. ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างพรรคเก่าและพรรคใหม่ ดังนั้น พรรคร่วมฝ่ายค้านยังต้องมาแชร์ประสบการณ์ และเรียนรู้กันอีกมาก ซึ่งเชื่อว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆทั้งงานในสภา และนอกสภา