นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลทีมเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า การทำหน้าที่ดังกล่าวเป็นเช่นเดียวกับทุกภารกิจของพรรคการเมืองที่ต้องมีทีมรวบรวมนโยบายที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของประชาชน เพื่อไปสู่การแก้ไขปัญหา ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ ได้กำชับเรื่องการแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนหลังเผชิญวิกฤติโควิด-19 โดยเน้นดูแลเรื่องความเดือดร้อนและความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นหลักเพื่อให้ทุกคนอยู่ดีกินดี
ทั้งนี้ ภารกิจหลักของพรรคคือการนำนโนบายมาช่วยเหลือประชาชน โดยให้ ส.ส.ทุกภาครับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนมาเสนอให้ทีมของพรรคเพื่อนำไปแก้ปัญหา
นางนฤมล กล่าวว่า ตนเองอยู่ในทีมนโยบายของพรรคตั้งแต่มีการก่อตั้งและรับผิดชอบงานด้านนี้อยู่แล้ว จากประสบการณ์ที่เคยทำหน้าที่เป็นอาจารย์สอนทางด้านการเงิน ที่ปรึกษาตลาดหลักทรัพย์และที่ปรึกษาธนาคารหลายแห่ง รวมถึงร่วมงานกับภาคเอกชนและภาคธุรกิจต่างๆ แต่ไม่ใช่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรค และไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจผิด เพราะมีหน้าที่เพียงการรวบรวมและจัดทำนโยบายของพรรคเท่านั้นก่อนจะสะท้อนความเห็นไปยังรัฐบาลเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ไม่กังวลต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องปกติทางการเมือง หากสิ่งใดที่สามารถนำมาปรับปรุงได้ก็พร้อมนำมาปรับปรุงแก้ไข การทำหน้าที่ตรงนี้เป็นคนละส่วนกับทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งเรื่องที่เกี่ยวกับ ครม.จะเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี
นางนฤมล กล่าวว่า ยังไม่ได้พบหรือพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร หลังจากเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ส่วนกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งหรือแทงข้างหลังนายสมคิด โดยยังทักทายและให้ความเคารพตามปกติ แต่การเปลี่ยนแปลงภายในพรรคอาจทำให้ถูกตีความไปในลักษณะนั้น
ส่วนโอกาสที่ตนเองจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีที่จะพิจารณาหรือไว้ใจให้ทำงาน ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่กล้าพูดอะไร เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยพูดคุยเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรี และได้พูดคุยแต่เรื่องการทำงานและการแก้ปัญหาให้ประชาชน ซึ่งตั้งแต่เข้ามาทำงานการเมืองไม่ได้คาดหวังตำแหน่งรัฐมนตรี
"ไม่กล้าพูดอะไรแบบนั้น ยังไม่เคยพูดอะไรกับนายกรัฐมนตรีเลยด้วยความสัตย์จริง คุยกันแต่เรื่องงาน" นางนฤมล กล่าว
นางนฤมล กล่าวว่า ยังไม่เคยคุยเรื่องปรับ ครม. และไม่ทราบว่าจะมีการปรับ ครม. ภายหลังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2564 หรือไม่