นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ว่า รัฐบาลยังคงเป็นการจัดสรรงบประมาณแบบเดิมๆ โดยไม่ได้สนใจความต้องการของประชาชน เน้นจัดสรรงบตามความต้องการของหน่วยงานและจัดสรรตามอิทธิพลของแต่ละกระทรวง
สำหรับการจัดสรรงบประมาณสำหรับการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญการจัดสรรงบเพื่อเยียวยาให้กับประชาชนที่ถูกเวนคืนที่ดินในเขตพื้นที่อีอีซี มีเพียงการการจัดสรรงบสำหรับเวนคืนที่ดินเท่านั้น โดยตั้งงบไว้มากกว่า 4,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ นายจิรัฏฐ์ ได้ตั้งข้อสังเกตในการมอบหมายกองทัพเรือเป็นผู้รับผิดชอบในพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา ซึ่งเป็นห่วงในเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานและความโปร่งใสในการจัดการประมูล รวมถึง การจัดทำรันเวย์ ที่ทางกองทัพเรือไม่มีความชำนาญ ที่ไม่เลือกจะปรึกษาข้าราชการโยธา แต่กลับไปจ้างที่ปรึกษาเป็นเงิน 100 ล้านบาทเพื่อมาควบคุมการก่อสร้าง
"เป็นปีที่ 3 ที่มีการจัดสรรงบให้อีอีซี ให้โครงการที่ยังไม่เสร็จ แต่ประชาชนเดือดร้อน จัดสรรงบแบบเดิมๆ ไม่ปรับปรุง ไม่พัฒนา ไม่สนใจเยียวยาประชาชน ทุนใหญ่แตะต้องไม่ได้...โครงการอีอีซี ถือเป็นความสำเร็จจอมปลอม ยังไม่มีความคืบหน้าแล้วยังกล้า ใช้โครงการนี้เป็นต้นแบบทำโครงการทั่วประเทศ ถือเป็นการกระจายความทุกข์ไปทั่วประเทศ"นายจิรัฏฐ์ กล่าว
ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ชี้แจงถึงการพัฒนาพื้นที่ EEC ว่า ต้องการใช้พื้นที่ตรงนี้ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เน้นเรื่องนวัตกรรม ไม่ใช่อุตสาหกรรมแบบเดิมๆ และเป็นการพัฒนาพื้นที่ต่อเนื่องจากนิคมอุตสาหกรรมเดิม โดยไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเขตชลประทาน
ทั้งนี้ รมว.มหาดไทย ระบุว่า รัฐบาลต้องการส่งเสริมให้ลูกหลานในพื้นที่เข้าไปทำงานในอีอีซี เพื่อผลิตสินค้าที่เพิ่มมูลค่าสูงขึ้น พร้อมกับยืนยันว่า การทำผังเมืองไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับใคร
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวถึง กรณีที่มีการบุกรุกพื้นที่สาธารณะ ซึ่งอาจจะเป็นทั้งจากคนที่มีฐานะ ข้าราชการ หรือประชาชนทั่วไป ว่า หากพบว่ามีการบุกรุกเจ้าหน้าที่ที่ดูแล เช่น นายอำเภอต้องมีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อไป พร้อมกับยืนยันว่า รัฐบาลมีแผนที่จะส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ที่ทำการเกษตรและอุตสาหกรรมในพื้นที่มีน้ำใช้อย่างเพียงพอ