นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีรัฐมนตรีกลุ่ม 4 กุมารลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานในรัฐบาล เพราะเป็นเรื่องปกติภายในพรรค และจากการรับฟังคำแถลงลาออกก็ยังเป็นมิตรที่ดีต่อกัน เป็นการจากกันด้วยดี ส่วนเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้นเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีในการพิจารณา และเชื่อว่าจะพิจารณาตามความเหมาะสม
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องที่นำมาเปรียบเทียบว่า"เสร็จนาฆ่าโคถึก" เพราะกลุ่ม 4 กุมารที่ร่วมก่อตั้งพรรค พปชร.ได้แถลงวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนในการลาออกจากพรรค หลังภารกิจรรลุวัตถุประสงค์ทุกอย่างแล้ว ส่วนตนเองหลังจากนี้จะดูแลเรื่องสุขภาพให้ดี
นายสมคิด กล่าวว่า หากจะมีการปรับ ครม.ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณา ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา และไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มตนเอง
นายสมคิด ยอมรับว่า ปัญหาการเมืองจะส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ หากการเมืองดี เศรษฐกิจก็จะดี สังคมก็จะดี ดังนั้นต้องพยายามดูแลการเมืองให้ดี การตั้งรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรีต้องพิจารณาให้ถ่องแท้ว่าใครเหมาะสมทำงานอะไร โดยให้ยึดบ้านเมืองเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนใครจะมาจะไปเป็นเรื่องปกติ
"ผมพร้อมของผมตั้งนานแล้ว เพราะอายุมากแล้ว ใจผมถอดไปหลายปีแล้ว" นายสมคิด กล่าว
ส่วนกรณีที่นายกรัฐบาลเรียกประชุมทีมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ และเลื่อนการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ออกไปนั้น นายสมคิด กล่าวว่า เป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่นายกรัฐมนตรีจะได้รับทราบข้อมูลจากภายนอกอย่างเพียงพอ ก่อนที่จะพิจารณามาตรการต่างๆออกมา ซึ่งเบื้องต้นการประชุมวันนี้จะมีทั้งภาคเอกชน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ได้เตรียมข้อมูลมาทั้งหมดแล้ว โดยประเด็นที่นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจมากที่สุด คือการช่วยเหลือกลุ่ม SME และมาตรการของกระทรวงการคลังก็ได้เตรียมไว้พร้อมแล้วก่อนนำเข้า ครม.ต่อไป เพื่อให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที เช่นเดียวกับกระทรวงอื่นๆ ที่จะพิจารณาหามาตรการช่วยเหลือ ทั้งกลุ่มเกษตรกร ปัญหาการว่างงาน การค้าการลงทุน โดยทุกกระทรวงมีความเกี่ยวข้องจึงต้องทำงานร่วมกัน
"เป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่นายกฯ จะได้รับทราบข้อมูลทั้งหมดในฐานะที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เพราะในรัฐบาลผสม ทุกกระทรวงต้องเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน" นายสมคิด กล่าว