นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสดกรณีครอบครัวคณะทูตซูดาน ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันแรกที่เข้าประเทศไทย รวมถึงกรณีของทหารอียิปต์ โดยเห็นว่าภาครัฐเข้มงวดให้ประชาชนตั้งการ์ด แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดของรัฐบาล เชื่อว่าคณะเดินทาง VIP ไม่ใช่ครั้งแรก จึงขอถามว่าจะติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีก
ทั้งนี้ จังหวัดระยองไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มาต่อเนื่องนานถึง 101 วัน แต่จากเหตุการณ์ดังกล่าว กลับต้องประกาศให้ปิดโรงเรียน, ศูนย์เด็กเล็ก ห้องสมุด ทั้งที่เพิ่งเริ่มเปิดเรียนได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ ประชาชน, ผู้ประกอบการห้างร้านต่างปฏิบัติตัวตามมาตรการที่ภาครัฐกำหนด แต่สุดท้ายกลับปล่อยให้มีคนติดเชื้อเข้ามาในประเทศ
"ประชาชนไม่กล้าเดินห้างสรรพสินค้า ยกเลิกโรงแรมในระยอง 90% ประชาชน แรงงาน ผู้ประกอบการเดือนร้อน ซึ่งนอกจากคำขอโทษแล้ว รัฐบาลจะเยียวยาความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างไร ประชาชนมีสิทธิที่จะฟ้องเอาผิดทางอาญาและทางแพ่งกับเจ้าหน้าที่รัฐได้" ส.ส.พรรคก้าวไกลระบุ
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงแทนว่า มีการวางหลักเกณฑ์โดยทั่วไปให้ทุกคนต้องเข้าสู่สถานกักตัวของรัฐ (State Quarantine) แต่กรณีที่มีข้อยกเว้น 11 กลุ่ม ตามประกาศมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยอนุญาตให้เครื่องบินเข้าน่านฟ้าเป็นหน้าที่กองทัพอากาศ แต่การลงจอดขึ้นอยู่กับการบินพลเรือน และเมื่อลงสนามบินมาแล้วจะเป็นการควบคุมโดยศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (EOC) โดยสนามบินอู่ตะเภา มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และผู้บัญชาการท่าอากาศยานเป็นรองประธาน
ในกรณีทูต อุปทูต และนักบิน อยู่ใน 11 กลุ่มที่ได้รับการยกเว้น แต่กรณีลูกทูตนั้น ปกติควรพักอยู่ในสถานทูต แต่กลับไปที่คอนโดฯ แต่เมื่อผลตรวจออกมา ก็เดินทางไปโรงพยาบาลทันที ส่วนกรณีการออกไปที่พำนักอื่นๆ เป็นพิเศษนั้น นายกรัฐมนตรีและกลุ่มงานที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อถอดบทเรียน แก้ไขสิ่งที่บกพร่อง พร้อมยืนยันว่าบุคคล 2 กลุ่มนี้ ไม่ได้อภิสิทธิ์พิเศษ แต่เป็นกลุ่มได้รับข้อยกเว้นตามมาตรการของ ศบค.
ส่วนการเยียวยาความเสียหายทางเศรษฐกิจนั้น รมช.สาธารณสุข ระบุว่า สิ่งแรกต้องทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น และกลับมาใช้ชีวิตปกติ เพื่อให้เศรษฐกิจกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด รวมถึงให้ธุรกิจขับเคลื่อนดีกว่าเดิม ใช้ทรัพยากรทั้งหมดของกรมควบคุมโรค ลงพื้นที่ตรวจเชิงรุก ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณเป็นรถพระราชทานลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้แก่ประชาชน โดยใช้วิกฤตเป็นโอกาสสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน บริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 จัดการควบคุมการระบาดโดยระบบให้ได้ ไม่ให้มีการระบาดกระจายวงกว้าง กลับมาสร้างความเชื่อมั่นให้คนระยองและคนไทยทั่วประเทศ
พร้อมกันนี้ เชื่อว่านายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้ยินเสียงเรียกร้องของประชาชน เพื่อพิจารณามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดระยองและใกล้เคียง โดยจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับนายกรัฐมนตรี และยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับผลกระทบทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกับการป้องกันการแพร่ระบาด หากประชาชนมีข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถแจ้งเข้ามาเพื่อรวบรวมข้อมูลนำไปสู่การสอบสวนโรค และจัดการผู้มีความเสี่ยงต่ำและความเสี่ยงสูง โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ปกปิดข้อมูล