พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการทาบทามบุคคลเข้ามาร่วมทีมเศรษฐกิจในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ว่า ได้มีการทาบทามนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาร่วมงานแล้ว แต่ได้รับการปฏิเสธ เนื่องจากครอบครัวไม่อนุญาต
และยอมรับว่าได้ทาบทามนายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานสมาคมธนาคารไทยด้วย โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอคำตอบ ขณะที่นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ปฏิเสธที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี แต่ยังคงช่วยงานตนเองต่อไป ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ อดีต รมว.คมนาคม ที่ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษกับตนนั้น ไม่ถือเป็นการส่งสัญญาณใดๆ ซึ่งนายอาคม ได้มาช่วยชี้แจงงานที่ทำไว้ และมาต้อนรับในฐานะเป็นคนศรีสะเกษ
"ก็กำลังติดต่อเขาอยู่ หลายคนก็บ๊ายบาย อยากช่วยนายกฯ แต่ขออยู่ข้างหลัง...หลายคนที่ติดต่อไป บางคนก็ตอบมาแล้ว บางคนยังไม่ตอบ บางคนขอกลับไปถามครอบครัวก่อน สำคัญที่ครอบครัวเป็นหลัก" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในรอบนี้จะทำหน้าที่คุมทีมเศรษฐกิจด้วยตัวเอง ส่วนรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจจะมีหรือไม่มีก็ได้ เพราะเมื่อตนเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจแล้ว ก็สามารถสั่งการได้ทุกกระทรวงเศรษฐกิจ ซึ่งการทำงานในอดีตนั้น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นผู้ดูแล แต่ปัจจุบันกระทรวงด้านเศรษฐกิจอยู่ในความดูแลของพรรคร่วมรัฐบาล แต่ตนดูในภาพรวมทั้งหมด ซึ่งการทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ไม่ได้หมายความว่าต้องเก่ง แต่จะนำทุกเรื่องมาพิจารณาวิเคราะห์หารือกับที่ปรึกษาของตน
ขณะเดียวกันอาจมีชื่อคณะที่ปรึกษาฯ เข้าร่วมในทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ด้วย เพราะเห็นว่าจำเป็นต้องมีนักเศรษฐศาสตร์ และผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการเงินการธนาคารเข้ามาร่วมงานกับรัฐบาล แต่รัฐมนตรีชุดใหม่จะไม่มีข้าราชการที่ต้องลาออกมาเพื่อมาร่วมงานกับรัฐบาล อย่างไรก็ตาม โควตาของ รมว.คลัง และ รมว.พลังงานนั้น ตนจะเป็นผู้พิจารณาเอง
นายกรัฐมนตรี ให้ความเชื่อมั่นว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้จะทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ซึ่งที่ผ่านมารัฐมนตรีทุกคนไม่ได้บกพร่องอะไร เพียงแต่มีสถานการณ์หลายอย่างเข้ามากดดัน ซึ่งหากมีการปรับเปลี่ยนประชาชนอาจจะรู้สึกดีขึ้นได้ และเชื่อว่าโฉมหน้า ครม.ชุดใหม่จะออกมาดี และขอให้รอดูผลงาน
พร้อมยอมรับว่า ทีมเศรษฐกิจที่เข้ามาใหม่จะต้องทำงานหนัก และต้องสามารถเร่งแก้ไขสถานการณ์และฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ได้โดยเร็ว ซึ่งจำเป็นต้องใช้นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงิน นักการธนาคารที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ โดยจะได้นำข้อมูลที่ได้จากการพบปะหารือกับสมาคมต่างๆ รวมทั้งสื่อมวลชน มาเป็นข้อมูลเพื่อแจกจ่ายงานให้ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ด้วย ซึ่งคณะกรรมการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นงานของทีมที่ปรึกษา และจะทำงานกับ ครม.เศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบคำถามว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้เป็นการปรับเล็กหรือปรับใหญ่ แต่จะไม่มีการปรับรัฐมนตรีในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งพรรคร่วมฯ ยังสามารถทำงานร่วมกันได้ ไม่มีปัญหาอะไร และไม่ได้ขออะไรเพิ่มเติม หรือขอปรับตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น
ส่วนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีนั้น ยืนยันว่าเจ้าตัวไม่ต้องการไปทำงานตำแหน่งอื่น เพราะทำงานหนักอยู่แล้ว และยืนยันว่าจะยังคงอยู่ช่วยงานในด้านการเมือง และไม่ต้องการตำแหน่งใดอีก ขณะที่ตำแหน่ง รมว.กลาโหม ยังไม่มีการปรับเปลี่ยน จะดูแลเหมือนเดิม ส่วนตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ที่มีชื่อนายบรรสาน บุนนาค รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เข้ามานั้น ยืนยันว่ายังไม่มีชื่อดังกล่าว และนายดอน ปรมัตถ์วินัย ยังคงมีสุขภาพแข็งแรงดี
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า หน้าตารัฐมนตรีชุดใหม่อาจจะมาจากคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งยอมรับว่ามีบางรายชื่อปรากฎออกมาบ้างแล้ว และทั้งหมดนี้จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนส.ค.63
สำหรับประวัติ นายปรีดี ดาวฉาย วันเกิดวันที่ 9 กันยายน พ.ศ.2501
วุฒิการศึกษา
-ปริญญาโท (กฎหมาย) University of Illinois at Urbana-Champaign, U.S.A.
-เนติบัณฑิตไทย
ประสบการณ์ทำงาน
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด
-ประธานกรรมการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด
-กรรมการ บริษัท โดล ไทยแลนด์ จำกัด
-สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ตำแหน่งอื่น
-ประธานกรรมการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด
-ประธานกรรมการ บริษัท แฟคเตอรี แอนด์ อีควิปเมนท์ กสิกรไทย จำกัด
-ประธานกรรมการ บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด
-กรรมการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด
-กรรมการ บริษัท เมืองไทย กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด
-กรรมการ บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด
-ประธานสมาคมธนาคารไทย
-รองประธานกรรมการ และประธานคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
-กรรมการ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ
-กรรมการ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
-กรรมการ คณะกรรมการระบบการชำระเงิน
-กรรมการ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
-กรรมการ ASEAN Bankers Association
-กรรมการ คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
-กรรมการ มูลนิธิองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)
-กรรมการ มูลนิธิโรงเรียนบางกอกพัฒนา