นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา แถลงผลการประชุมพรรคชาติพัฒนาว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค จะไปยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต่อนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยจะมีผลในวันพรุ่งนี้ เพื่อเปิดทางให้นายกรัฐมนตรีได้ปรับคณะรัฐมนตรีได้ด้วยความเรียบร้อย
"วันนี้ที่ประชุมพรรค คุณเทวัญ หัวหน้าพรรคแสดงความจำนงที่จะลาออกจากรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นการเปิดทางให้นายกฯปรับครม.ได้ด้วยความเรียบร้อย เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพ และไม่มีความแตกแยก เพื่อให้โอกาสคนที่มีความรู้ความสามารถช่วยแก้ปัญหาประเทศ"นายสุวัจน์ กล่าว
นายสุวัจน์ กล่าวว่า การเสียสละของพรรคครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าพรรคไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง ซึ่งตั้งแต่เข้าร่วมรัฐบาล ทางพรรคซึ่งมี 3 เสียงก็ไม่ได้มีเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล แต่นายกรัฐมนตรีได้ให้ตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และแม้ว่า วันนี้พรรคมีเพิ่มเป็น 4 เสียง แต่พรรคยังยินดีเสียสละเปิดทางให้ปรับครม.ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และพรรคชาติพัฒนายังคงให้การสนับสนุนนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลต่อไป
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การปรับครม.ครั้งนี้ไม่ส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล ซึ่งประชาชนก็คาดหวังกับการปรับครม.ครั้งนี้ว่าจะได้ดรีมทีม หรือได้ทีมเศรษฐกิจที่ดีที่สุดเข้ามาแก้ไขปัญหาและผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปให้ได้
นายเทวัญ กล่าวถึงสาเหตุลาออกในครั้งนี้ว่า เป็นไปตามมติของคณะกรรมการบริหารพรรคชาติพัฒนา ที่ต้องการเปิดทางให้นายกรัฐมนตรีสามารถปรับ ครม. เพื่อให้ได้คนเก่งและเหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆ มาถึงพรรค เพียงแต่ทางพรรคมองว่าเมื่อกลุ่ม 4 กุมารลาออกจากพรรคพลังประชารัฐไปก่อนหน้านี้ จึงได้มีการพิจารณาที่จะลาออกเพื่อเปิดทางให้นายกรัฐมนตรีปรับ ครม.ได้ง่ายขึ้น
นายเทวัญ กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่มีโอกาสพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีโดยตรง แต่นายกรัฐมนตรีทราบเรื่องที่ตนจะลาออกแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณที่เคยได้ร่วมทำงานในคณะรัฐมนตรีด้วย
ส่วนจะได้กลับมาร่วมงานกับรัฐบาลอีกหรือไม่นั้น นายเทวัญ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของอนาคต พร้อมยืนยันว่า ส.ส.ของพรรคทั้ง 4 คนยังคงให้การสนับสนุนรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลมีเสถียรภาพต่อไป
นายเทวัญ กล่าวว่า ส่วนตัวยังเป็นห่วงงานที่รับผิดชอบอยู่หลายเรื่อง ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการประชุมคณะทำงานเพื่อมอบหมายงาน และอำลาตำแหน่งก่อนที่หนังสือลาออกจากจะมีผลในวันพรุ่งนี้ (21 ก.ค.)