นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ปฏิเสธไม่ได้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก และไม่เคยให้เงินเป็นค่าจ้างกับกลุ่มแกนนำดังกล่าว โดยเชื่อว่าการออกมาชุมนุมครั้งนี้ก็ไม่ได้รับอามิสสินจ้างจากใครด้วย แต่เป็นความเคลื่อนไหวเพื่อต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้า
สำหรับการที่สมาชิกของคณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกลออกไปร่วมชุมนุมด้วย นายธนาธร กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะคนของอดีตพรรคอนาคตใหม่ต่างเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้นเมื่อมีการออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ พวกเราก็พร้อมที่จะร่วมสนับสนุน ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ให้ยุบสภานั้นตนเองไม่ขอแสดงความเห็นเพราะเป็นเรื่องของกลุ่มผู้ชุมนุม
นายธนาธร กล่าวว่า กรณีที่ตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการละเมิดสถาบันฯ นั้น ขอเรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันปกป้องกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกเรียกร้องประชาธิปไตย เพราะทำเพื่ออนาคตของประเทศ หากไม่ปกป้องก็จะไม่มีใครออกมาต่อสู้แทนประชาชนได้ ถือเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความกล้าหาญ การออกมาข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีเป็นกลยุทธ์ของฝ่ายรัฐบาลเพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมกลัว ไม่กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ส่วนการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้านั้น ตนเองคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายจะต้องหันหน้าเข้าหากัน เพราะใกล้เกิดวิกฤตทางการเมืองแล้ว ซึ่งหากปล่อยให้วิกฤตการเมืองครั้งนี้เกิดขึ้นจะรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมามาก แต่ยังพอมีเวลาเหลืออยู่ที่จะยับยั้งวิกฤตนี้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียของประชาชนขึ้นอีก อย่ารอให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายขึ้นมาก่อนแล้วค่อยหันหน้าพูดคุยกัน ข้อเสนอนี้ไม่ใช่ทางเลือกแต่เป็นทางออกเดียวของสังคมไทย เพื่อหาข้อตกลงใหม่ซึ่งเป็นที่ยอมรับร่วมกัน