คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า สถานการณ์ที่จะทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้คือการมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย และเป็นของประชาชนที่จะอำนวยให้เกิดโอกาสการมีส่วนร่วมของประชาชน วันนี้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษา ปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ สภาผู้แทนราษฎร ในสัดส่วนของพรรค พท.ได้ทำงานมาหลายเดือนแล้วได้ข้อสรุปการแก้ไขรัฐธรรมนูญถือว่าเป็นประโยชน์ และจะเป็นบันไดทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ โดยพรรคฯ เห็นด้วยกับ กมธ.ที่นำเสนอใน 2 เรื่องหลัก คือ การให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เป็นผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และทำให้เงื่อนไขการแก้ไขรัฐธรรมนูญง่ายขึ้น
ส่วนกรณีมี ส.ส.และ ส.ว.บางส่วนไม่เห็นด้วยกับการตั้ง ส.ส.ร.เพราะเป็นการตีเช็คเปล่าว่า มีการตีเช็คเปล่าโดยไม่ยึดโยงอำนาจของประชาชนมามากหลายเหตุการณ์ ตั้งแต่การร่างรัฐธรรมนูญปี 60 ที่มีกำหนดให้มี ส.ว.250 คน แต่การมี ส.ส.ร.มาจากประชาชน คืออำนาจอันชอบธรรมที่จะกำหนดทิศทางของประเทศ และกำหนดกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ ดังนั้นจึงไม่ใช่เช็คเปล่า แต่เป็นเช็คที่เขียนเต็มจำนวนในการให้อำนาจประชาชน และคนที่คิดว่าเป็นการตีเช็คเปล่าคือคนที่มองไม่เห็นความสำคัญของประชาชน ซึ่งวันนี้อยากขอร้องว่าอย่าเอาประโยชน์ส่วนตน บ้านเมืองเดินมาถึงจุดนี้ ประชาชนมีความยากลำบาก จำเป็นที่ทุกคนต้องมองเห็นประโยชน์ส่วนรวม ดังนั้นขอเรียกร้องความจริงใจจากนายกฯ เป็นลำดับแรก
นอกจากนี้ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ ได้พิจารณาถึงเรื่องเงื่อนเวลาด้วยสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน ถ้าต้องการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นทางออกทางรอดของประเทศไทยต้องไม่ใช้เวลามากนัก โดยเห็นว่าระยะเวลาในการร่างรัฐธรรมนูญไม่ควรเกิน 7-8 เดือน และกระบวนการตั้งหมดไม่ควรเกิน 1 ปี
คุณหญิงสุดารัตน์ มองว่า ระยะเวลาดังกล่าวมีความเป็นไปได้ เพราะมีรัฐธรรมนูญที่เป็นต้นแบบ ไม่ได้เริ่มจากศูนย์ และหลังมีรัฐธรรมนูญใหม่ก็ควรยุบสภาจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ คืนอำนาจประชาชนให้ตัดสินใจอนาคตของประเทศใหม่อีกครั้งหนึ่ง ภายใต้กฎกติกาที่เป็นสากลและเป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน โดยวันนี้จะนำความเห็นของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ เสนอให้ ส.ส.พิจารณา หาก ส.ส.เห็นชอบตามที่เสนอในเรื่องการร่นระยะเวลา ส.ส.ก็สามารถลงชื่อ และเสนอเป็นญัตติเพื่อเสนอเป็นกฎหมายได้ในสัปดาห์นี้ที่มีการเปิดสภาฯ
ทั้งนี้ ข้อเสนอแก้รัฐธรรมนูญไม่เกิน 1 ปี ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน หากนายกฯ มีความจริงใจในการคืนประชาธิปไตยที่แท้จริงให้ชาติ ประชาชน นายกฯ ต้องสั่งการให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลร่วมสนับสนุน ขณะเดียวกัน ส.ว.จะมีที่มาอย่างไรก็แล้วแต่ แต่เมื่อมาทำหน้าที่ให้ประชาชนควรแสดงความจริงใจในการสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ พรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯ เพื่อเรียกร้องให้นายกฯ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานหยุดการคุกคามนิสิต-นักศึกษาในทุกรูปแบบ
ด้านนายโภคิน พลกุล กรรมการยุทธศาสตร์ฯ กล่าวว่า อยากให้มีการตั้ง ส.ส.ร. ขึ้นเพื่อจัดการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกกล่าวหาว่าร่างโดยผู้ที่ยึดอำนาจ แม้จะมีประชามติแต่ก็เป็นประชามติที่ไม่เสรีและไม่เป็นธรรม
เมื่อสาเหตุของปัญหามาจากรัฐธรรมนูญ ดังนั้นทุกฝ่ายควรต้องร่วมมือกันแก้ไข ทั้งนายกฯ ส.ว. และนอกจากนี้ที่ห่วงว่าจะใช้งบประมาณทำประชามติหลายครั้งจะใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งครั้งแรกคือฉบับปี 60 และอีกครั้งจะเป็นฉบับที่ ส.ส.ร.ร่างขึ้น มีคนบอกว่าจะใช้งประมาณ 3 พันล้านบาทนั้น หากจะต้องเสียเงิน 6 พันล้านบาทเพื่อให้มีโรดแม็พของประเทศ คือรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน แพงมากหรืออย่างไรกับที่เรานำเงินไปซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น ส่วนที่มีคนเสนอว่าทำไมไม่แก้รายมาตรา ซึ่งจะทำได้เร็วนั้น ยืนยันว่าทำได้เร็วจริงแต่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน
"ถ้าเราทำให้กติกานี้มาจากประชาชน คือประชาชนเลือกตั้งมาและมายกร่าง และกลับไปทำประชามติโดยประชาชน ซึ่งกระบวนการทั้งหมดผู้ที่มาจากการเลือกตั้งจะเป็นผู้เข้าไปดำเนินการ ดังนั้นจึงเป็นกระบวนการที่ยุติธรรมสำหรับทุกฝ่ายในสังคม ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ"