พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ประกาศย้ำชัดเจนไม่คิดลงสนามการเมือง ส่วนทหารรุ่นน้องที่เริ่มขยับจัดทัพลงพรรคใหม่ ถือเป็นสิทธิส่วนตัวของแต่ละบุคคล เชื่อประชาชนทุกคนอ่านประวัติศาสตร์มาแล้วน่าจะตัดสินใจเลือกทางที่ถูกได้
พล.อ.สุรยุทธ์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในวันนี้ว่า เคยปฏิเสธการลงเล่นการเมืองมาโดยตลอด อีกทั้งเคยสัญญากับครอบครัวไว้แล้วว่าจะไม่เล่นการเมืองอย่างแน่นอน
"ผมปฏิเสธมาโดยตลอด ในชีวิตผมไม่เคยคิดดำเนินการทางการเมือง เพราะผมได้สัญญากับภริยาไว้แล้วตั้งแต่เริ่มแต่งงาน ไม่งั้นคงจะไม่ได้แต่งงาน"พล.อ.สุรยุทธ์ ยืนยันกับผู้สื่อข่าว ในงานนายกฯ พบสื่อทำเนียบฯ ครั้งที่ 8
สำหรับกระแสข่าวการรวมกลุ่มนายทหหารนอกประจำการตั้งพรรครักชาติ และอาจเชิญพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) มาเป็นหัวหน้าพรรคนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนตัวแล้วเห็นว่าเป็นสิทธิที่ พล.อ.สนธิ จะตัดสินใจเองว่าจะลงเล่นการเมืองหรือไม่ และที่สำคัญในขณะนี้พล.อ.สนธิ ยังไม่เกษียณอายุราชการ หากจะพูดหรือแสดงความเห็นไปก่อนจะถือว่าผิดมารยาทได้
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าทุกคนสามารถตัดสินใจเองได้ เพราะความคิดเห็นของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน หากไม่มีข้อขัดข้องทางกฎหมายก็มีสิทธิที่จะกระทำได้ และขอไม่ออกความเห็นต่อกรณีที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษาผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(ผอ.รมน.)จะลงเล่นการเมืองในนามพรรครักชาติ และลงสมัครส.ส.กทม.เขตดุสิต ตามที่เป็นข่าว โดยระบุเพียงว่าถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล
ผู้สื่อข่าวถามว่าเกรงประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรือไม่จากที่ทหารจะลงเล่นการเมือง พล.อ.สุรยุทธ์ ตอบว่า ทุกคนอ่านประวัติศาสตร์อยู่แล้ว เชื่อว่าทุกคนตัดสินใจได้
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงหนังสือ"ทักษิณ 24 ชั่วโมง หลังรัฐประหาร"ที่พบว่ามีข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงอยู่มากจะต้องต่อสายตรงถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่นั้น พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่จำเป็นต้องหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และการชี้แจงทำความเข้าใจจะเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ
แต่ทั้งนี้เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่จะเข้าใจที่มาที่ไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี และรัฐบาลคงไม่มีสิทธิจะไปบังคับว่าประชาชนจะต้องเชื่อข้อมูลของฝั่งไหน เพราะย่อมขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนเอง
"ต่อสายคงไม่ต่อ แต่คงชี้แจงทำความเข้าใจไปเรื่อยๆ แต่ผมว่าคนไทยส่วนใหญ่เข้าใจแล้วว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีที่มาที่ไปอย่างไร ส่วนการชี้แจงกับต่างประเทศก็คงเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ"นายกรัฐมนตรี กล่าว
นอกจากนี้ ยืนยันว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ไม่ได้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการทำปฏิวัติรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 ตามที่ปรากฎอยู่ในหนังสือฉบับดังกล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--