นายสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา ตัดสินใจชะลอการยื่นจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองใหม่ออกไปก่อน เพื่อรอผลเจรจาของแกนนำกลุ่มรวมใจไทยที่อยู่ระหว่างทาบทามกลุ่มการเมืองต่างๆ เข้ามาร่วมงาน เนื่องจากมีข้อมูลใหม่เข้ามา ซึ่งทางกลุ่มมัชฌิมาพิจารณาแล้วเห็นว่าหากชะลอการตั้งพรรคใหม่ออกไปจะเป็นประโยชน์ต่อความสมานฉันท์ในบ้านเมืองมากกว่า
นายสมศักดิ์ แถลงหลังประชุมสมาชิกกลุ่มมัชฌิมาว่า ขณะนี้มีข้อมูลใหม่ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการควบรวมกับกลุ่มต่าง ๆ ไม่เฉพาะมัชฌิมากับรวมใจไทยเท่านั้น แต่จะมีในส่วนอื่นๆที่จะต้องประสานกันเพื่อให้เกิดการปรองดองที่แท้จริง แต่จะใช้ระยะเวลาเท่าไรนั้นยังไม่ทราบ ซึ่งจะใช้เท่าที่จำเป็นเพื่อให้การเลือกตั้งนั้นเดินไปได้และให้เกิดการปรองดองขึ้น
"เรายังไม่สามารถกำหนดตัวเลข วันนั้นยังไม่ทราบ ที่เราพบว่าเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อชาติ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะกลุ่มของมัชฌิมาและรวมใจไทยเท่านั้น ซึ่งมีผู้ใหญ่คนหนึ่งจะช่วยมาเป็นผู้ประสานงานให้ด้วย"นายสมศักดิ์ กล่าว
เดิมกลุ่มมอบหน้าที่ให้นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ แกนนำกลุ่มรวมใจไทย เป็นผู้ประสานงานทั้งหมด แต่ตอนนี้จะเข้าไปช่วยประสานงานด้วย โดยได้รับข้อมูลใหม่ว่าอาจมีการเลือกตั้งก่อนเดือน ก.พ.51 จึงต้องรอระยะหนึ่งเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีกว่าเข้ามา ส่วนเรื่องชื่อพรรคนั้นคงไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่สุด ยังมีเรื่องที่สำคัญกว่ารวมทั้งตัวหัวหน้าพรรค ซึ่งอาจจะได้คนที่ดีกว่าที่เราคิด
ด้าน ร.อ.รชฎ พิสิษฐบรรณกร รองโฆษกกลุ่มมัชฌิมา แถลงว่า กลุ่มจะชะลอการจดทะเบียนพรรคมัชฌิมาธิปไตยจากเดิมที่กำหนดไว้ในพรุ่งนี้ออกไปก่อน เพื่อรอดูกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่จะมีผลต่อการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองในอนาคต รวมทั้งรอผลการประสานงานเพื่อรวมกลุ่มการเมือง โดยพิจารณาที่ผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้กลุ่มมัชฌิมาได้ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ลงชื่อนายธนพร ศรียางกูร รองผู้อำนวยการกลุ่มมัชฌิมา ขอเลื่อนการจดทะเบียนพรรคมัชฌิมาธิปไตยในวันที่ 28 ส.ค.เวลา 13.00 น.ออกไปก่อน โดยระบุเหตุผลว่าการจดทะเบียนเป็นกระบวนการสำคัญของพรรคการเมืองจึงมีความจำเป็นต้องศึกษารายละเอียดและบทบัญญัติของกฎหมายอย่างรอบคอบ เพื่อให้การจดทะเบียนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมบูรณ์แบบ และมีผลทางกฎหมาย
และหลังการแถลงข่าว นายสาคร พรหมภักดี อดีต ส.ส.สกลนคร ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร พร้อมด้วยใบสมัครสมาชิกกลุ่มมัชฌิมาของประชาชนชาว จ.สกลนคร จำนวน 4 แสนคนมามอบให้กับหัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา
ขณะเดียวกันวันนี้ แกนนำกลุ่มรวมใจไทย เช่น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์, นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์, นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์, นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล, นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล, นายพิมล ศรีวิกรม์, นายสมคาด สืบสกุล ทำพิธีเปิดที่ทำการกลุ่มรวมใจไทยบริเวณอาคาร ณ ถลาง โดยมีสมาชิกกว่า 200 คนเข้าร่วม ซึ่งนายสมศักดิ์ และนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา ได้เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีด้วย โดยกลุ่มรวมใจไทยขึ้นป้ายหน้าที่ทำการว่า "อนาคตของชาติจะถูกจุดขึ้น ณ บ้านหลังนี้"
นายสมคิด กล่าวว่า ได้มาร่วมแสดงความยินดีและรู้สึกชื่นชมกับการทำงานการเมืองของคนที่มีคุณภาพเพื่อชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง ซึ่งได้แนะนำว่าขอให้สร้างกลุ่มรวมใจไทยให้เป็นสถาบันการเมืองเป็นพรรคที่มีคุณภาพ ไม่ใช่เน้นปริมาณแต่ให้เน้นประโยชน์ของบ้านเมืองและประเทศเป็นหลัก และต้องไม่เป็นนอมินีของใครแต่ต้องเป็นนอมินีของคนทั้งประเทศ
โดยส่วนตัวแม้จะถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี แต่จะช่วยคิดนโยบายหาคนดีมีคุณภาพและมีหลักการมาช่วยในการพัฒนาและเป็นแกนหลักของกลุ่ม เพราะตนเองเห็นว่าตอนนี้การเมืองอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน เราต้องสามัคคีกันเพื่อที่จะรวมพลังฝ่าวิกฤติให้ได้ ซึ่งตนเองและนายอุทัย พิมพ์ใจชน ซึ่งเข้ามารับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาก็พร้อมที่จะช่วยเต็มที่
ส่วนการร่วมทำงานกับกลุ่มการเมืองอื่นนั้น นายสมคิด กล่าวว่า สถานการณ์เมื่อสองปีที่ผ่านมาการเมืองอยู่ในช่วงวิกฤติแต่จากนี้ต่อไปจะรวมได้หรือไม่ก็อยู่ที่คนจะไปประสานที่จะแก้ปัญหาของประเทศให้ได้ ไม่ใช่เน้นแต่ปริมาณเพียงอย่างเดียว ซึ่งนักการเมืองรุ่นใหม่ก็น่าจะสามารถดำเนินการตรงนี้ได้
ด้านนายอุทัย กล่าวว่า สาเหตุที่มาร่วมกับกลุ่มรวมใจไทยไม่ใช่เพราะเงิน แต่เพราะเห็นว่ากลุ่มรวมใจไทยมีความตั้งใจทำงาน โดยยืนยันว่าจะไม่ลงสมัคร ส.ส.และ ส.ว.แน่นอน
พร้อมทั้งแนะนำกลุ่มรวมใจไทยไปว่าอย่าเพิ่งไปคิดว่าจะไปรวมกับใคร ขอให้รวมกันเองก่อนเพราะว่าการเมืองเหมือนกับสงคราม ซึ่งคนที่มีกำลังน้อยหากจะไปขอหย่าศึกคนที่มีกำลังมากกว่าเขาคงไม่เอาด้วย ถ้ากำลังเท่ากันก็ว่าไปอย่าง ก็เหมือนกับการเมืองการที่ไม่มีอำนาจต่อรองหรือไปมือเปล่าเขาก็ไม่เอาด้วย เราก็เอาเท่าที่มีก่อนพร้อมแล้วค่อยว่ากัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องมี ส.ส.เพราะการเมืองยังต้องเดินต่อไปเชื่อการเมืองตอนนี้เรียนรู้ได้ไม่ช้า
นายประดิษฐ์ กล่าวว่า การรวมกลุ่มกับมัชฌิมายังคงอยู่ในขั้นตอนการประสานงานกันอยู่เหมือนเดิม โดยกรอบการทำงานจะสิ้นสุดภายในวันที่ 30 ส.ค.นี้ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นก็จะมีการแถลงผลการประสานงานทั้งหมด ตนเองจะพยายามดำเนินการทุกอย่างให้ถึงที่สุด ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ส่วนกรณีที่นายอุทัยแนะนำว่ายังไม่ควรไปรวมกับใครแต่ควรทำกลุ่มรวมใจไทยให้แข็งแรงก่อนนั้น นายประดิษฐ์ กล่าวว่า เห็นด้วยเพราะการตั้งกลุ่มการเมืองต้องสร้างตัวเองให้แข็งแรงและมีความมั่นคงถาวร
--อินโฟเควสท์ โดย รฐฦ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--