"สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศที่มีต่อกรณี "การชุมนุมประท้วง"ของนักศึกษา ณ วันนี้" จำนวนทั้งสิ้น 197,029 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 16-21 สิงหาคม 2563 สรุปผลได้ ดังนี้ คนส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นการเรียกร้องตามระบอบประชาธิปไตย ให้สัดส่วน 59.11% รองลงมาเป็นเรื่องที่ ต้องไม่จาบจ้วงสถาบัน ให้สัดส่วน 41.76%
ในเรื่องความคิดเห็นของประชาชนกับข้อเรียกร้องให้ "แก้ไขรัฐธรรมนูญ" ปรากฏว่า คนส่วนใหญ่เห็นด้วย 62.84% เพราะรัฐธรรมนูญไม่เป็นกลาง เป็นการสืบทอดอำนาจเผด็จการ ไม่เป็นประชาธิปไตย, อยากให้แก้ไขในหมวดที่มาของ ส.ว., ควรแก้ไขเฉพาะบางมาตราที่ทำให้เกิดปัญหา, ประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญ, ล้าสมัยไม่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน ฯลฯ
ความคิดเห็นของประชาชนกับข้อเรียกร้องให้ "พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภาหรือลาออก" ปรากฏว่าคนส่วนใหญ่เห็นด้วย 53.88% เพราะบริหารงานล้มเหลว ประเทศชาติไม่เจริญก้าวหน้า ไม่มีผลงาน ไม่มีความรู้ความสามารถมากพอในการบริหาร, นายกฯ มาจากการการสืบทอดอำนาจ การได้มาของตำแหน่งขาดความชอบธรรม, เศรษฐกิจตกต่ำ, เผด็จการ ใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ, มีการทุจริตคอร์รัปชั่น เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ฯลฯ แต่ก็มีคนไม่เห็นด้วย 38.43% เพราะเป็นคนดี ซื่อสัตย์สุจริต เสียสละ ตั้งใจทำงาน มีความจงรักภักดี เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี, ยังมองไม่เห็นใครที่มีความเหมาะสมเข้ามาแทน, พล.อ.ประยุทธ์มาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ควรให้โอกาสทำงานจนครบวาระ 4 ปีก่อน ฯลฯ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนกับข้อเรียกร้องให้ "หยุดคุกคามประชาชน" ปรากฏว่าคนส่วนใหญ่เห็นด้วย 59.47% เพราะการแสดงออกทางความคิดเห็นของประชาชน ควรเป็นไปอย่างอิสระ ไม่โดนคุกคาม, เป็นการใช้อำนาจรัฐเกินขอบเขต เผด็จการ, เป็นสิทธิและเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยของประชาชน, ละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ฯลฯ
โดยภาพรวม ประชาชนเห็นด้วยกับการชุมนุมประท้วงของนักศึกษา ณ วันนี้ 53.71% เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงออกทางความคิดเห็น เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน, เป็นการเรียกร้อง/การกล้าแสดงออกของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเห็นประเทศเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น, เป็นการแสดงออกถึงอุดมการณ์หรือจุดยืน มีเป้าหมายที่ชัดเจน /ต้องการประชาธิปไตย ฯลฯ
รองศาสตราจารย์ ดร.ธนภัทร ปัจฉิมม์ คณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่า ผลการสำรวจของสวนดุสิตโพลต่อกรณี การชุมนุมประท้วงของนักศึกษาในครั้งนี้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่อาจปฏิเสธได้ว่านี่เป็นผลิตผลทางรัฐธรรมนูญว่าด้วยเรื่องประชาธิปไตยโดยแท้ ที่รับรองสิทธิ เสรีภาพการชุมชน และการประท้วงของประชาชนหรือนักศึกษาที่มีต่อรัฐบาลหรือสถาบันทางการเมืองอื่นๆ อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิเสรีภาพดังกล่าว ก็จำต้องสำเนียกด้วยว่าไม่ควรให้เกินเลยกรอบของกฎหมายบ้านเมือง
ในขณะที่ผลการสำรวจส่วนใหญ่ต่อข้อเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นประเด็นที่น่าสนใจ และรัฐบาลจึงควรใช้โอกาสนี้ทำสัญญาประชาคมและกำหนด Timeline ให้ชัดเจนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และดึงภาคส่วนต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วม หากข้อเรียกร้องดังกล่าวนี้ล่าช้าเกินควรหรือไม่ได้รับการสนองตอบจากรัฐบาลจะยิ่งทำให้เกิดความเร่งเร้าและเกิดข้อเรียกร้องให้รัฐบาลต้องยุบสภาหรือลาออกหรืออาจจะมีการออกมาขับไล่รัฐบาลเหมือนดั่งเหตุการณ์ที่ผ่านมาก็เป็นได้ ดังนั้น รัฐบาลควรรับฟังข้อเรียกร้องต่างๆ ผ่านผลการสำรวจนี้ เพื่อเป็นข้อมูลในการคิด วิเคราะห์และนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อแก้ไขสถานการณ์มิให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้