รายงานข่าวจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน (สผผ.) เปิดเผยว่า จากการเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน แทนตำแหน่งที่ว่างจำนวน 2 คน ระหว่างวันที่ 20 ก.ค.-21 ส.ค.63 มีผู้สมัครจำนวน 9 คน ได้แก่
1.นายรักษเกชา แฉ่ฉาย อายุ 60 ปี อดีตเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน (สมัครแทนทั้ง 2 ตำแหน่ง)
2.พล.ต.อ.ศักดา เตชะเกรียงไกร อายุ 62 ปี อดีตผู้บังคับการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (สมัครแทนทั้ง 2 ตำแหน่ง)
3.ร.ศ.อิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ อายุ 66 ปี อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ (สมัครแทนทั้ง 2 ตำแหน่ง)
4.นายกุลกุมุท สิงหรา ณ อยุธยา อายุ 65 ปี อดีตเอกอัครราชทูตประจำกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ (สมัครแทนทั้ง 2 ตำแหน่ง)
5.นายธฤต จรุงวัฒน์ อายุ 64 ปี อดีตเอกอัครราชทูตประจำกรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี (สมัครแทนทั้ง 2 ตำแหน่ง)
6.นายสมชาย เจริญอำนวยสุข อายุ 63 ปี อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (สมัครแทนทั้ง 2 ตำแหน่ง)
7.นายกิตติ แก้วทับทิม อายุ 67 ปี อดีตอธิบดีอัยการภาค 6 และอัยการอาวุโส สำนักงานอัยการสูงสุด (สมัครแทนทั้ง 2 ตำแหน่ง)
8.พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อายุ 64 ปี อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม (สมัครแทนทั้ง 2 ตำแหน่ง)
9.นายมรุต จิรเศรษฐสิริ อายุ 60 ปี อดีตอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก (สมัครแทนทั้ง 2 ตำแหน่ง)
สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยธุรการของคณะกรรมการสรรหาฯ จะส่งรายชื่อผู้สมัครไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติตามมาตรา 8 (1) และมาตรา 9 และตรวจสอบลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ.2560
เมื่อได้รับผลการการตรวจสอบดังกล่าวแล้ว คณะกรรมการสรรหาฯ จะพิจารณาคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน หลังจากนั้นจะเชิญผู้สมัครที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามมาสัมภาษณ์หรือแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินต่อไป