พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีมติเอกฉันท์ให้คณะกรรมาธิการงบประมาณสัดส่วนของพรรคขอให้กองทัพเรือถอนวาระการจัดซื้อเรือดำน้ำออกไปก่อนว่า เป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการงบฯ จะพิจารณา ซึ่งมีอยู่หลายพรรคการเมืองด้วยกัน
ส่วนจะกระทบกับการทำงานในฐานะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยัน การทำงานของพรรคร่วมเป็นไปด้วยดี ขออย่านำเป็นประเด็น เป็นเรื่องภายในที่จะบริหารกันเองได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญได้อธิบายไปหมดแล้วถึงความจำเป็น หลักการและเหตุผล อีกทั้งงบประมาณที่จะซื้อก็เป็นงบของกองทัพเรือ และได้แก้งบประมาณปี 2563 ไปแล้วส่วนหนึ่งว่าโครงการใดที่เป็นโครงการต่อเนื่องมีความจำเป็นหรือไม่ ดังนั้นการจัดซื้อเรือดำน้ำจะได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการงบฯ
"โลกวันนี้เปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใด ความขัดแย้งมีเยอะหรือไม่ ไม่ได้มีไว้สู้กับใครแต่เป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ และที่สำคัญเป็นงบของกองทัพเรือ สุดแล้วแต่จะพิจารณาอย่างไร วันหน้าทุกคนต้องรับผิดชอบด้วยกันทั้งหมด ไม่ใช่ผมคนเดียว เป็นเรื่องของมติหลายคนหลายพรรค...อะไรก็ตามที่จะสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้เราไม่ใช่เพื่อใครทั้งสิ้น แต่เพื่อประเทศและประชาชน เป็นทรัพยากรของชาติ "พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นเรื่องของยุทธศาสตร์ที่กองทัพเรือได้เตรียมการไว้นานแล้ว ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านก็มีเรือดำน้ำกันแล้วทั้งนั้น เป็นเรื่อง กมธ.งบฯ ที่จะต้องพิจารณา
ส่วนกรณีที่ กมธ.งบฯ ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้กองทัพเรือเปิดเผยรายละเอียดของหนังสือมอบอำนาจในการลงนามการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) นั้น พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า พร้อมที่จะเปิดเผยรายละเอียดตามที่เรียกร้องดังกล่าว