พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคประชาธิปัตย์เตรียมเสนอร่างกฎหมายแยกออกจากพรรคร่วมรัฐบาลในสัปดาห์หน้าว่า เป็นเรื่องของแต่ละพรรคการเมืองที่จะดำเนินการ ซึ่งต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งหากแก้ผิดวิธีก็คงจะวุ่นวายกันไม่เลิก และคงจะต้องแก้ไขไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีใครได้ประโยชน์ใช่หรือไม่ ซึ่งวันนี้ต้องดูว่าที่ต้องการจะแก้ไขนั้นมีเหตุผลอย่างไร หรือเพื่อต้องการป้องกันอะไรหรือไม่ เชื่อว่าคงไม่ได้เป็นการแก้ไขเพื่อตนเองอย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ ที่ตนทำอยู่ทุกวันนี้เป็นความรับผิดชอบตามหน้าที่ และในช่วงที่ยังไม่มีรัฐธรรมนูญใหม่ ก็ต้องใช้รัฐธรรมนูญเก่าไปก่อน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่สามารถไปเสนอให้แก้ไขเรื่องอำนาจของ ส.ว. ต้องเป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาล และทั้งหมดขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงต้องดูว่าจำเป็นต้องมีการทำประชามติด้วยหรือไม่ ซึ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามกลไก
ส่วนอำนาจ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรียังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปหารือกันในสภาฯ เชื่อว่าจะได้ข้อสรุป และคงไม่มีใครที่อยากจะโดนต่อว่าทุกวัน และทุกคนมีความตั้งใจทำงาน อยากให้มองย้อนกลับไปเปรียบเทียบว่าที่ผ่านมา ส.ว.ในอดีตทำหน้าที่อย่างไร อย่ามองเพียงแต่ว่า ส.ว.จะมาทำหน้าที่เพียงสนับสนุนให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น เพราะยังมีประเด็นอื่นอีกหลายเรื่อง
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการเตรียมเคลื่อนไหวชุมนุมสนับสนุนรัฐบาลที่หลายฝ่ายกังวลจะเกิดปัญหาม็อบชนม็อบว่า คงไม่สามารถห้ามใครได้ ต้องพิจารณาว่าใครทำผิดกฏหมายบ้าง หากพบการทำผิดกฏหมายก็ต้องถูกดำเนินการ เว้นแต่คนที่ดื้อต่อกฏหมายก็ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ดังนั้นขอให้ประชาชนส่วนใหญ่ไตร่ตรอง วิเคราะห์ และพิจารณาว่าจะทำให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ต่อไปหรือไม่ ส่วนจะมีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่นั้น ตนก็ไม่ทราบ ต้องว่ากันด้วยหลักฐาน หากทุกคนไม่รักษากฏหมาย และปล่อยให้สถานการณ์บ้านเมืองเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็เป็นห่วงว่าจะอยู่กันอย่างไร