นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 256 ที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอให้ใช้เสียงของรัฐสภา 3 ใน 5 ขณะที่ฝ่ายค้านเสนอให้ใช้เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของรัฐสภาว่า การใช้เสียง 3 ใน 5 ของรัฐสภาที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอนั้น ทำให้การแก้ไขยากขึ้น ไม่สะท้อนความยืดหยุ่น ซึ่งจะต้องมีการนำไปหารือในชั้นกรรมาธิการ หลังที่ประชุมรัฐสภาพิจารณารับหลักการหรือไม่ต่อไป
ประธานวิปฝ่ายค้าน ยังขอให้รัฐบาลเร่งรัดกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากรัฐสภารับหลักการไปแล้ว ในการพิจารณาวาระ 2-3 ควรใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ในชั้นกรรมาธิการฯ และรัฐบาลควรเปิดรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อลงมติ และเข้าสู่กระบวนการออกเสียงประชามติในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อให้การตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) สามารถดำเนินการได้ในเดือนธันวาคมนี้ เพราะเกรงว่าหากยื้อเวลาออกไปก็จะไม่เป็นผลดีต่อประเทศ
ส่วนที่ประธานวิปรัฐบาลระบุสัญญาตอบรับให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญจาก ส.ว.ยังไม่ค่อยชัดเจนนั้น นายสุทิน กล่าวว่า แม้สัญญาณจะไม่ดีแต่ก็ไม่สามารถรอได้ แต่มั่นใจว่า ส.ว.จะยึดหลักเหตุผลและปัญหาที่พบ เพื่อหาทางออกของปัญหา อีกทั้งเห็นประโยชน์ของประเทศ
ประธานวิปฝ่ายค้าน ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเปิดอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้วางตัวบุคคลที่จะอภิปราย รวมถึงเนื้อหาการอภิปรายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งฝ่ายค้านจะชี้ให้เห็น และซักถามถึงปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของประเทศ เพื่อให้รัฐบาลชี้แจง เหมือนการชี้ให้เห็นถึงความทุกข์และให้หาหนทางดับทุกข์ พร้อมยืนยันว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ จะมาร่วมการอภิปรายในครั้งนี้ด้วย