รายงานข่าวจากรัฐสภา เปิดเผยว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การปฏิบัติตามกฎหมายของโครงการก่อสร้างทางรถไฟยกระดับและถนนยกระดับในเขตกรุงเทพมหานคร และการใช้ประโยชน์ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (โฮปเวลล์)
สำหรับรายงานฉบับที่เสนอต่อสภาฯ นั้น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานศึกษาปัญหาสัญญาโฮปเวลล์ ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิ มนุษยชน ได้ไล่เรียงตั้งแต่การมีโครงการดังกล่าวตั้งแต่เริ่มต้นและกระบวนการที่พบความไม่โปร่งใสและไม่เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) หลายประการ อาทิ มติครม.ให้กระทรวงคมนาคมเป็นตัวแทนของรัฐบาลลงนามในสัญญากับ บริษัทโฮปเวลล์ โฮลดิ้ง จำกัด (ฮ่องกง) แต่ตรวจสอบพบว่าได้ลงนามสัญญากับบริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่จดทะเบียนการค้ากับกระทรวงพาณิชย์ไม่ถูกต้องและไม่ชอบตามกฎหมาย
ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 281 ที่ระบุว่าห้ามการประกอบธุรกิจของคนต่างห้ามหากไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล และถือว่าผิดต่อมติครม. เนื่องจากมติ ครม. กำหนดชัดเจนว่า คือ บริษัทโฮปเวลล์ โฮลดิ้ง จำกัด (ฮ่องกง) ไม่ใช่บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด, การลงนามสัญญาที่ มติ ครม. กำหนดให้ส่งร่างสัญญาให้อัยการสูงสุดตรวจสอบ ก่อนลงนาม
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมฐานะตัวแทนรัฐบาลไทยได้นำร่างสัญญาให้อัยการ พิจารณาเพียงไม่กี่วันก่อนลงนามและอัยการมีข้อทักท้วงให้ปรับปรุง แต่ไม่พบการแก้ไข เนื่องจากกระทรวงคมนาคมได้นำร่างแก้ไขสอบถามกับ นายกอ ดอน วู เจ้าของบริษัทโฮปเวลล์ ฮ่องกง แต่นายกอดอน วู ไม่เห็นด้วย จึงไม่ได้แก้ไข
รายงานดังกล่าว ระบุว่า บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทที่จดทะเบียนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และถือเป็นการจดทะเบียนตั้งบริษัทนั้นเป็นโมฆะ ทำให้กระบวนการทั้งหมด รวมถึงคำพิพาษาของศาลปกครอง ที่สั่งรัฐบาลไทยจ่ายค่าชดใช้ให้กับบริษัทโฮปเวลล์ฯ เป็นโมฆะด้วย เพราะการยื่นฟ้องทำไม่ได้ตามกฎหมาย ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถชำระเงินได้ เพราะคำพิพากษาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ไม่ใช่ตัวคำพิพากษา แต่เป็นเพราะคนที่ยื่นฟ้องไม่มีอำนาจฟ้องตามกฎหมาย