คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาล ทยอยถอนชื่อในการเสนอญัตติ แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ว่า ต้องขอให้กำลังใจพรรคก้าวไกลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตราดังกล่าว ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกันที่พรรคฝ่ายค้านเห็นตรงกัน และพรรคเพื่อไทยตั้งใจจะดำเนินการตั้งแต่ต้น โดยพรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอ 4 ญัตติ ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในวันที่ 10 ก.ย. ซึ่งเป็นประเด็นที่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลได้พูดคุยกันมาตั้งแต่ต้น จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งหากพรรคก้าวไกลจะพิจารณามาร่วมกันเป็นเจ้าของญัตติทั้ง 4 ร่วมกันกับพรรคเพื่อไทย ทั้งการตัดอำนาจ ส.ว., การไม่เอานายกฯ คนนอก, การยกเลิกอำนาจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และยกเลิก ส.ว.ปฏิรูปประเทศ
"ขอให้กำลังใจพรรคก้าวไกล ที่ได้แสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนในการต่อสู้กับเผด็จการ พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติและมีเป้าหมายร่วมกันมาโดยตลอด และพร้อมจับมือร่วมกันต่อสู้กับเผด็จการ" คุณหญิงสุดารัตน์ระบุ
ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ข้อเสนอในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคก้าวไกลมี 3 เรื่องหลัก คือ 1. การแก้ไขมาตรา 256 เพื่อให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับผ่านสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง 2. การยกเลิกบทเฉพาะกาล มาตรา 269-272 เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. โดยดำเนินการควบคู่กันไปกับการตั้ง สสร. และ 3. การยกเลิกบทเฉพาะกาล มาตรา 279 เพื่อยกเลิกการรับรองให้ประกาศคำสั่ง คสช. และการกระทำที่เกี่ยวเนื่องชอบด้วยรัฐธรรมนูญและชอบด้วยกฎหมายไปตลอด
พร้อมระบุว่า การปิดสวิตซ์ ส.ว. ด้วยการยกเลิกมาตรา 272 มีความสำคัญอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะนอกจากจะเป็นการยกเลิกอำนาจของวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว หลายวันที่ผ่านเริ่มมีการพูดถึงรัฐบาลแห่งชาติ และมีการเสนอเรื่องนายกรัฐมนตรีคนนอก ซึ่งสาระสำคัญของ มาตรา 272 วรรค 2 คือ การเปิดช่องให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนนอกได้ ดังนั้น หากสามารถยกเลิกมาตรา 272 ได้เร็วที่สุด ก็จะเป็นการหยุดยั้งไม่ให้เกิดทางตัน ลดความขัดแย้งทางการเมือง และเป็นการปิดสวิตซ์ ส.ว. เพื่อไม่ให้เข้ามาแทรกแซงการเลือกนายกรัฐมนตรี และปิดทางไม่ให้เกิดการเลือกนายกรัฐมนตรีคนนอกไปพร้อมกัน โดยวานนี้ (8 ก.ย.) พรรคก้าวไกลได้ร่วมกับ ส.ส.รัฐบาล และฝ่ายค้าน รวมทั้งสิ้น 99 รายชื่อ ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม ยกเลิกมาตรา 272 ต่อประธานรัฐสภา ซึ่งวันนี้ได้รับทราบว่า ส.ส.ฝั่งรัฐบาลจำนวนหนึ่งได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่สภาฯ เพื่อขอถอนรายชื่อออกจากญัตติดังกล่าว ซึ่งหากมีการถอนรายชื่อจำนวนหนึ่งจริง ต้องยอมรับว่าจะทำให้ญัตติดังกล่าวไม่สมบูรณ์ เพราะมีรายชื่อ ส.ส.ไม่ครบ 1 ใน 5 ของสมาชิกตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด และจะทำให้ญัตติดังกล่าวจะต้องตกไป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
"พรรคก้าวไกลพยายามรวบรวมรายชื่อภายใต้ข้อจำกัดอย่างดีที่สุด หากมีการถอนรายชื่ออีก และไม่สามารถหารายชื่อเพิ่มได้ ญัตตินี้จะต้องตกไป อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่ายินดีที่พรรคเพื่อไทยมีมติเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องการปิดสวิตซ์ ส.ว. ด้วยการยกเลิก มาตรา 272 ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกันกับที่พรรคก้าวไกลสนับสนุน คือ การเสนอญัติให้ยกเลิกมาตรา 272 และการยกเลิกมาตรา 270-271 โดยในประเด็นการปิดสวิตซ์ ส.ว. ด้วยการยกเลิกมาตรา 272 นั้น เรายังหวังว่าพรรคเพื่อไทยจะยื่นญัตติได้ในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ เพื่อให้ประธานรัฐสภาได้บรรจุวาระดังกล่าวทันปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเราพร้อมยินดีร่วมลงชื่อสนับสนุนญัตติของพรรคเพื่อไทย เพื่อให้เข้าสู่วาระการประชุมของรัฐสภา ก่อนปิดสมัยการประชุมในวันที่ 25 กันยายน 2563" นายชัยธวัชกล่าว
สำหรับในประเด็นการแก้ไขมาตรา 256 เรื่องการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) นายชัยธวัช กล่าวว่า แม้พรรคก้าวไกลไม่ได้ร่วมลงชื่อกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่ญัตตินี้ได้ถูกบรรจุอยู่ในวาระการพิจารณาของรัฐสภาแล้วในวันที่ 23-24 ก.ยงนี้ โดยพรรคก้าวไกลจะยกมือสนับสนุนการแก้ไขมาตรา 256 ในวาระที่ 1 และจะผลักดันให้เกิดการแปรญัตติในวาระที่ 2 เพื่อทำให้ สสร.ที่จะเกิดขึ้นเป็น สสร.จากประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ปิดกั้นความคิด ความฝันของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และที่สำคัญคือโครงสร้างที่มาของ สสร.จะต้องไม่กลายเป็นสภาร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่ถูกวางไว้ให้เป็นกลไกสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร