นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ อภิปรายถึงความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาล โดยเชื่อว่า ในงบฯปี 63 รัฐบาลเก็บรายได้ไม่ตรงตามเป้าที่วางไว้ พร้อมตั้งข้อสังเกตการจัดทำงบประมาณที่แตกต่างกับรัฐบาลในอดีต ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่า การตั้งงบฯปี 63 และ 64 รัฐบาลให้ความสำคัญกับงบกลางเป็นอันดับ 1 แตกต่างกับในอดีตที่ให้ความสำคัญกับงบฯของกระทรวงศึกษาธิการมาเป็นอันดับแรก ซึ่งการจัดเตรียมงบกลางในลักษณะนี้ทำให้เกิดการตรวจสอบยาก เพราะอำนาจการสั่งการอยู่ที่นายกฯ เพียงคนเดียว
โดยในส่วนของการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นายมิ่งขวัญ เสนอแนวคิดให้รัฐบาลนำเงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท และเงินส่วนอื่นๆ อีกประมาณ 1 แสนล้านบาท ไปช่วยเหลือประชาชนที่มีความยากลำบากอย่างแท้จริง โดยให้ประชาชนคนละ 5,000 บาท/ราย/เดือน เป็นเวลา 12 เดือน ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ถึง 33 ล้านคน
นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังในตัวหัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่บริหารงานด้วยวิสัยทัศน์ที่ผิดพลาด จะเห็นได้ว่า ผลกระทบที่ตามมาทั้งเรื่องการส่งออกที่ติดลบและการท่องเที่ยวที่รายได้หดหาย รวมถึงปล่อยให้ต่างชาติเข้ามาครอบงำธุรกิจในไทย เช่น การตั้งล้งผลไม้
นอกจากนี้ยังมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีนายทุนสนับสนุนอยู่รอบตัว ซึ่งหลายโครงการเอื้อให้นายทุนรายใหญ่ ล่าสุดรัฐบาลเตรียมแจกเงินอีก 3,000 บาทให้กับประชาชน 15 ล้านคน ซึ่งสุดท้ายเชื่อว่าเงินจำนวนนี้จะหมุนไปสู่นายทุน
อย่างไรก็ตาม นายมิ่งขวัญ เสนอทางออกว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องลาออก และต้องให้มีคนเข้ามาแก้รัฐธรรมนูญโดยอิสระ และแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศควบคู่กันไป และเมื่อแก้รัฐธรรมนูญเรียบร้อยจึงจะยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่