นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 สภาผู้แทนราษฎร ได้นำเสนอรายงานของ กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร หลัง กมธ.หาข้อมูลประกอบการแก้ไขเพิ่มเติม โดยรวบรวมความเห็นอย่างรอบด้านเสร็จสิ้น โดยไม่มีความคิดใดถูกหรือผิด เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูล โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหลัก
กมธ. เสนอให้การแก้ไขมาตรา 256 เพื่อให้สามารถแก้ไขส่วนอื่นๆ ที่เป็นปัญหาได้ง่ายขึ้น และเมื่อพิจารณารายมาตราแล้ว พบว่า ทั้งเรื่องสิทธิเสรีภาพประชาชน, กระบวนการยุติธรรม ที่ควรมีระบบถ่วงดุล, หน้าที่ของรัฐ ที่ประชาชนควรมีอำนาจกำกับการใช้อำนาจรัฐได้ ซึ่งเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับรัฐธรรมนูญในอดีตแล้วมีเนื้อหาสาระดีกว่า จึงควรนำรายละเอียดรัฐธรรมนูญในอดีตมาปรับใช้เพิ่มเติมในปัจจุบัน โดย กมธ.เสนอให้มีการยกร่างขึ้นมาใหม่ โดยให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากประชาชน และจัดให้มีการออกเสียงประชามติ ส่วนสถานะองค์กรต่างๆ ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวถึงแผนยุทธศาสตร์ชาติตามรัฐธรรมนูญว่า ควรมีการแก้ไขให้ทุกภาคส่วนเขามามีส่วนร่วม เพื่อมุมมองหลากหลาย และปรับปรุงกรอบการทำยุทธศาสตร์ชาติให้เร็วขึ้น และอาจต้องปรับแผนทุกๆ 1-2 ปี
ส่วนบทบัญญัติการขัดกันแห่งผลประโยชน์ นายพีระพันธุ์ ชี้แจงว่า ควรมีการบัญญัติห้ามตุลาการ และสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดอบรมหลักสูตรใดๆ เพื่อไม่ให้มีการสร้างสายสัมพันธ์กับตุลาการศาล และรัฐสภาสามารถตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญได้บางกรณี รวมถึงมีกระบวนการตรวจสอบการใช้อำนาจขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญอย่างเหมาะสม ผ่านกระบวนการรัฐสภา เพราะยึดโยงกับประชาชน
นายพีระพันธุ์ ยังเปิดเผยผลสรุปการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบการเมืองว่า ในระบบการเลือกตั้ง ควรกลับไปใช้ระบบการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ แบ่งเป็น ระบบแบ่งเขต 400 คน และแบบบัญชีรายชื่อ 100 คน พร้อมยกเลิกระบบการคำนวณ ส.ส.ปัจจุบัน รวมถึงยกเลิกขั้นตอนการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ขณะที่บทบัญญัติว่าด้วยสมาชิกวุฒิสภาตามบทเฉพาะกาล กมธ.ยังมีความเห็น 2 ชุด ได้แก่ การยกเลิกวุฒิสภาชุดปัจจุบัน และกลับไปใช้วิธีการคัดเลือกแบบทางอ้อม และการวุฒิสภาอยู่ปฏิบัติหน้าที่จนครบวาระ แต่ปรับลดอำนาจการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และการติดตามการปฏิรูปประเทศออก รวมถึงยกเลิกนำหมวดว่าด้วยการปฏิรูปประเทศในรัฐธรรมนูญออก และนำไปบัญญัติเป็นกฎหมายรองแทน เพราะกระบวนการปัจจุบันล่าช้า และไม่มีความคืบหน้าใดๆ