"รอว่าเมื่อไหร่ ครม.จะเคาะให้เลือก...ในภาพรวมถือว่า กกต.มีความพร้อม ทั้งคน ทั้งเงินมีอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา" นายอิทธิพร กล่าว
ประธาน กกต.กล่าวว่า เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้ ครม.เป็นผู้กำหนดการเลือกตั้ง โดย กกต.ประสานกับกระทรวงมหาดไทยตลอดเวลา แต่ยังไม่มีการแจ้งอย่างเป็นทางการ
ส่วนความพร้อมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ครม.ได้อนุมัติกฎหมายการทำประชามติแล้ว อยู่ระหว่างคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบความถูกต้อง และเสนอเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา
ประธาน กกต.ยังกล่าวถึงการตรวจสอบสถานะของนายเทพไท เสนพงษ์ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกศาลพิพากษาจำคุกว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานภาพ เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานที่ชัดเจน
นายแสวง บุญมี ประธานกรรมการสื่อสารองค์กร สำนักงาน กกต. กล่าวในงานเสวนา"มุมมองการเลือกตั้งท้องถิ่นกับภารกิจ กกต."ว่า ขณะนี้ กกต.มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเลือกตั้งแล้ว โดยในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จะใช้โมเดลจากการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ลำปาง และ จ.สมุทรปราการ พร้อมระบุว่า การดูแลการเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของทุกคน ไม่ใช่หน้าที่ของ กกต.เท่านั้น ซึ่ง กกต.จะดูแลการเลือกตั้งไปตามกฎกติกา ส่วนการประกาศผลเลือกตั้งล่าช้า เพราะกฎหมายกำหนดให้ต้องรู้ผลไม่ต่ำกว่า 95% จึงจะประกาศได้ ซึ่งคะแนนไม่ได้แตกต่างไปจากที่แต่ละหน่วยประกาศหลังปิดหีบ
"ระบบการเลือกตั้งของไทยถือว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลกแล้ว สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา" นายแสวง กล่าว
นายวุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า คาดว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นจะมีการแข่งขันรุนแรงเพราะร้างลาจากการเลือกตั้งมานาน โดยถึงเวลาแล้วที่จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน หลังจากผู้ที่รักษาการขณะนี้อยู่ในตำแหน่งมานานถึง 6 ปี ซึ่งนานกว่าวาระการดำรงตำแหน่งปกติที่กำหนดไว้เพียง 4 ปี ขณะที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นรากฐานการเมืองที่สำคัญของประเทศ มีงบประมาณที่จะใช้บริหารงานมากถึง 8.4 แสนล้านบาท
"การเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นโอกาสสำคัญของประชาชนในพื้นที่ที่จะกำหนดอนาคตของตัวเอง" นายวุฒิสาร กล่าว
สำหรับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีสิ่งที่ควรทำเพื่อลดภาระ ได้แก่ 1.ทยอยให้ความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายใหม่ๆ กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง 2.อย่าไปตั้งเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง และ 3.ต้องมีความพร้อมที่จะตอบสนองการร้องเรียนอย่างถูกต้องและรวดเร็ว ซึ่ง กกต.สามารถดำเนินการเชิงรุกได้ทันที โดยไม่ต้องรอว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ และขอให้นำเสนอด้วยภาษาง่ายๆ
ด้านนายมงคล บางประภา นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า กกต.ควรใช้บทเรียนจากวิกฤตโควิด-19 โดยทำงานเชิงรุก ด้วยการให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับสังคมอย่างต่อเนื่อง อย่าปิดกั้นตัวเองจนมากเกินไป
สิ่งที่อยากฝากถึง กกต.คือ ความเป็นธรรมในการหาเสียงเลือกตั้งกรณีการใช้สื่อโซเชียล ซึ่งผู้ที่มีพรรคการเมืองหนุนหลังจะมีความได้เปรียบ และอยากให้ กกต.ใช้สื่อโซเชียลให้เกิดประโยชน์ ด้วยการชี้แจงข้อมูลซึ่งจะได้รับการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อป้องกันการถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นโจมตีอีกในอนาคต