นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อดีตแกนนำเสื้อหลากสี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ให้ดำเนินคดีกับ 3 แกนนำการชุมนุมของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.คือ นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง และ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ในความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 ล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ จากกรณีการปราศรัยบนเวทีกลางท้องสนามหลวง
นายแพทย์ตุลย์ กล่าวว่า รับไม่ได้กับการล่วงละเมิดสถาบันกษัตริย์ ดูหมิ่น ดูแคลน ด้วยความเท็จและถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม ในฐานะที่เป็นคนไทยก็รู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีก เพราะแกนนำการชุมนุมประกาศว่าจะมีการนัดชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 24 ก.ย.นี้
"ขอร้องให้น้อง ๆ เพื่อน ๆ พี่ ๆ หลายคนที่กำลังคิดว่าจะไปร่วมเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ อยู่ให้อยู่บนพื้นของความเป็นจริง ขอพูดจากใจแทนคนไทยส่วนใหญ่ที่เห็นภาพการชุมนุมและการปราศรัยในวันนั้นแล้วเกิดความไม่สบายใจ"นายแพทย์ตุลย์ กล่าว
พร้อมระบุว่า พวกเราเป็นพสกนิการชาวไทยเป็นพลเมืองไทย ไม่ใช่ฝุ่น พระราชวงศ์ทุกพระองค์เห็นความสำคัญและความทุกข์ยากของประชาชน จึงทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอย่างเต็มที่ เห็นได้จากล่าสุดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทรงพระราชทานยา อุปกรณ์การแพทย์ และรถชีวอนามัยตรวจเชื้อโควิด ซึ่งหากไม่มีเงินงบประมาณหรือเงินที่ประชาชนศรัทธาถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย พระองค์ท่านจะนำเงินที่ไหนมาทำโครงการตามพระราชดำริเหล่านี้
ส่วนการหมอบกราบเป็นประเพณีของคนไทยที่ปฏิบัติต่อพระมหากษัตริย์ พ่อแม่ ครูอาจารย์ หรือพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี เป็นการหมอบกราบ ไม่ใช่การหมอบคลาน ซึ่งคนไทยปฎิบัติด้วยใจสำหรับผู้ที่สมควรได้รับการกราบ
"ทุกคำกล่าวอ้างบนเวทีว่าสถาบันกษัตริยเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นความจริงน้อยมาก ขอให้ไปศึกษาไตร่ตรองให้ดี"นายแพทย์ตุลย์ กล่าว