นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ม็อบ 19 กันยายน กับ การซ้ำเติม กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 21 – 25 กันยายน ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.9 ระบุ ม็อบ 19 กันยายนที่ผ่านมา ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ในขณะที่ร้อยละ 10.1 ระบุไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง
ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.2 ระบุ ม็อบ 19 กันยายน ซ้ำเติมวิกฤตชาติและซ้ำเติมวิกฤตความเดือดร้อนของประชาชน ในขณะที่ร้อยละ 8.8 ระบุไม่ซ้ำเติม นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.0 ระบุ ม็อบและกลุ่มผู้สนับสนุนกำลังสร้างความแตกแยกและทำลายรากฐานของประเทศตนเอง ในขณะที่ร้อยละ 8.0 ระบุไม่สร้างความแตกแยก
อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.0 ระบุ ใครผิดว่าไปตามผิด จัดการตามกฎหมายแกนนำม็อบและกลุ่มผู้สนับสนุน ไม่ให้มีการลอกเลียนแบบทำผิดซ้ำ ในขณะที่ร้อยละ 8.01 ระบุไม่ต้องจัดการ
ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.2 ระบุ ควรลงโทษสูงสุด ยุบพรรคการเมืองที่มีนักการเมืองหนุนหลังการชุมนุมล่วงละเมิดสถาบันหลักของชาติ ในขณะที่ร้อยละ 8.8 ระบุ ไม่ควร นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.1 ระบุ เห็นด้วยว่า ไม่รักแต่อย่าทำลาย ความรักความสามัคคีของคนในชาติ ห้ามล่วงละเมิดสถาบันหลักของชาติเพราะเป็นเรื่องจำเป็นต่อความสงบสุขของบ้านเมือง ในขณะที่ร้อยละ 3.9 ระบุไม่เห็นด้วย
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ม็อบ 19 กันยายน ไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนทั่วไปเพราะเป็นการชุมนุมที่ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการชุมนุม ตรงกันข้ามประชาชนทั่วไปกลับเล็งเห็นว่าการชุมนุมกำลังนำไปสู่ความแตกแยก ทำลายความรักความสามัคคีของคนในชาติ กำลังล่วงละเมิดสถาบันหลักของชาติที่เป็นเรื่องจำเป็นต่อความสงบสุขของบ้านเมือง ถ้าบ้านเมืองไม่สงบสุขมั่นคง การขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก ทุกกลุ่มผลประโยชน์จำเป็นต้องตัดไฟแต่ต้นลมส่งตัวแทนเข้าเจรจาหาข้อยุติอย่างเร่งด่วนเพื่อสกัดกั้นความรุนแรงบานปลายที่อาจเกิดขึ้นจนยากเกินเยียวยาได้