สวนดุสิตโพล เผยสำรวจความคิดของประชาชนเกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมืองที่วุ่นวายอยู่ในขณะนี้ที่มีแนวโน้มจะยืดเยื้อต่อไป โดยประชาชนส่วนใหญ่ 91.87% คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องช่วยกันหาทางออกของความขัดแย้ง ส่วนอีก 8.13% คิดว่ายังไม่ถึงเวลา
โดยทางออกของความขัดแย้งที่เหมาะสมมากสุด 88.44% คือ รัฐบาลรับฟังความคิดเห็นอย่างจริงใจ รองลงมา 87.57% คือ ไม่ใช้ความรุนแรง ตามด้วย 82.03% คือ ไม่สองมาตรฐาน, 74.19% คือ จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นทั่วประเทศ และ 69.36% คือ ถอยคนละก้าว
สำหรับผู้นำในการหาทางออกครั้งนี้มากสุด 27.40% แกนนำ ตัวแทน ผู้นำกลุ่มต่างๆ รองลงมา 26.77% นายกรัฐมนตรี, 24.37% ภาคประชาชน, 12.81% ภาครัฐ และ 8.65% นักเรียน นักศึกษา เยาวชนคนรุ่นใหม่
ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ 75.12% คาดหวังต่อความสำเร็จในการหาทางออกดังกล่าว แต่ประชาชนอีก 24.88% คาดว่าไม่น่าจะสำเร็จ
น.ส.เอกอนงค์ ศรีสำอางค์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการและงานวิจัย โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า ผลสำรวจครั้งนี้พบว่าประชาชนต่างมีความเห็นเป็นเสียงส่วนใหญ่ว่าถึงเวลาแล้วที่เราประชาชนคนไทยต้องช่วยกันหาทางออกความขัดแย้ง ซึ่งทางออกที่ควรดำเนินการเป็นอันดับแรก คือ รัฐบาลต้องเปิดโอกาสรับฟังประชาชนและทุกภาคส่วนด้วยความจริงใจ ต้องไม่ใช้ความรุนแรงในการเข้าแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอันจะนำไปสู่สถานการณ์ที่แย่ลงเฉกเช่นช่วงพฤษภาทมิฬ พ.ศ.2535 ประการรองลงมาที่รัฐบาลควรดำเนินการคือ การปฏิบัติงานต่างๆ ต้องไม่ใช้วิธีการสองมาตรฐาน หากรัฐบาลมีการทำงานตามที่กล่าวมาทั้ง 2 ประการ ย่อมแสดงให้ประชาชนและทุกภาคส่วนเห็นถึงความจริงใจ ปฏิบัติงานตามหลักธรรมาภิบาลก็น่าที่จะนำไปสู่การลดปัญหาความขัดแย้งลงได้
โดยผู้ที่จะเป็นแนวร่วมในการช่วยกันหาทางออกควรจะเป็นแกนนำ ตัวแทนกลุ่มต่างๆ ทุกภาคส่วน นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้นำประเทศ และขาดไม่ได้เลยในการช่วยกันหาทางออกในความขัดแย้งคือ "ประชาชน คนไทย ทุกคน" ที่ต่างต้องมองไปในทิศทางเดียวกันว่าประเทศไทยเป็นของชนชาวไทยทุกคน เราต้องร่วมกันฟันฝ่าหาทางออกครั้งนี้ให้สำเร็จโดยสันติวิธี
ทั้งนี้ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 1,263 คน ระหว่างวันที่ 23-25 กันยายนที่ผ่านมา