"ประดิษฐ์"ขีดเส้นประสานทุกกลุ่มร่วม"รวมใจไทย-มัชฌิมา"ภายในสิ้นเดือนนี้

          นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ แกนนำกลุ่มรวมใจไทย ขอเวลาจนถึงสิ้นเดือนนี้ถึงจะมีความชัดเจนเรื่องการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่และหัวหน้าพรรค โดยนับจากวันนี้จะต้องทำงานหนักมากขึ้นทั้งการประสานงานกับตัวบุคคลและกลุ่มการเมืองต่างๆ เพื่อชักชวนให้เข้ามาร่วมงานกับกลุ่มรวมใจไทยและกลุ่มมัชฌิมาที่ได้ตกลงใจร่วมงานกันแล้ว
          "วันนี้ไปจะทำงานหนักตลอด ทั้งการพูดคุยกับตัวบุคคลและการประสานงานกับกลุ่มการเมืองต่างๆ ผมกำหนด Dateline สิ้นเดือนนี้ต้องจบ"นายประดิษฐ์ กล่าว
          ส่วนการรวมกลุ่มของมัฌชิมากับรวมใจไทยในขณะนี้ถือว่าไม่มีปัญหา ทุกอย่างลงตัวหมดแล้ว พร้อมมองว่าการทำงานภายใต้พรรคการเมืองใหม่ย่อมต้องให้ความสำคัญกับโครงสร้างพรรค รวมทั้งคำนึงถึงว่าแต่ละบุคคลที่จะเชิญเข้ามาร่วมงานกันนั้นจะมีบทบาทอย่างไร โดยยืนยันว่าพรรคการเมืองใหม่ที่จะจัดตั้งในครั้งนี้เป็นการทำงานทางการเมืองในระยะยาว ไม่ใช่การตั้งพรรคเฉพาะกิจ
          "ปัญหาขณะนี้คือโครงสร้างที่จะจัดขึ้นมาในการก่อตั้งพรรคควรจะเป็นอย่างไร หากไปเชิญบุคคลอาวุโสหรืออดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยมาแล้วจะอยู่ตรงไหน" นายประดิษฐ์ กล่าว
          สำหรับบุคคลที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคนั้น นายประดิษฐ์ กล่าวว่า จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และพูดคุยกับทุกกลุ่มการเมืองได้ โดยยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยจะชูนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ มาเป็นหัวหน้าพรรค แต่สุดท้ายต้องเจอกับอุบัติเหตุทางการเมืองจากที่อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทั้ง 111 คนถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง จึงต้องหารืออีกครั้งว่าใครจะเหมาะสมที่จะมารับหน้าที่นี้
          ส่วนข่าวที่ว่าจะทาบทามนายศุภชัย พาณิชภักดิ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ รวมถึง ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย มาเป็นหัวหน้าพรรคนั้น นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการติดต่อทาบทามบุคคลทั้ง 2 ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด และเห็นว่ากรณีของนายศุภชัย คงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากติดภาระกิจในการเป็นเลขาธิการ องค์กรการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา(UNCTAD)ที่ยังไม่หมดวาระ
          กรณีของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน ที่จะเข้ามาร่วมงานการเมืองกับทางกลุ่มมัฌชิมาและรวมใจไทย นั้น มองว่าการที่ พล.ต.สนั่น จะมาร่วมงานก็ต้องมีขอบเขตเหมือนกันและยังนับถือให้เป็นบุคคลอันดับหนึ่งในใจ และกรณีของนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่ระบุว่าจะไม่ยุบพรรคไปรวมกับกลุ่มใดนั้น นายประดิษฐ์ กล่าวว่า จะเดินทางไปพบนายเสนาะ เพื่อหารือในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง
          "หากผมเป็นท่าน ผมก็คิดเหมือนท่าน แต่การจะไปอยู่พรรคประชาราชต้องคุยเรื่องอื่นด้วย ความลงตัวมีหลายอย่างต้องคุยกัน" นายประดิษฐ์ กล่าว
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมคิด กล่าวกับกลุ่มผู้สื่อข่าวอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะเข้าหารือกับนายประดิษฐ์ว่า ช่วงนี้สบายดีมีเวลาดูแลลูกได้มากขึ้นและไปส่งที่โรงเรียนทุกวัน และไม่ได้ติดตามข่าวด้านการเมืองมากนัก แต่จะให้ความสนใจกับรายการอคาเดมี แฟนเทเชียมากกว่า
          ทั้งนี้นายสมคิด ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเรื่องการเมืองและไม่ขอพูดถึงบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป โดยกล่าวแต่เพียงว่าการที่พรรคการเมืองต้องแตกออกมาเป็นกลุ่มการเมืองอย่างเช่นในขณะนี้มาจากผลการตัดสินคดียุบพรรค