รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่วันนี้ ที่ประชุมฯ มีมติเลือกนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ด้วยคะแนน 376 คะแนน รองหัวหน้าพรรค 10 คน ประกอบด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง, นายชูศักดิ์ ศิรินิล, นายเกรียง กัลป์ตินันท์, นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร, นายพิชัย นริททะพันธุ์, นายสุทิน คลังแสง, นายไชยา พรหมา, พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด , นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นเลขาธิการพรรค
ส่วนรองเลขาธิการพรรค ประกอบด้วย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม, นายจิรวัฒน์ ศิริพาณิชย์, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล, นายคุณากร ปรีชาชนะชัย และ นายนพ ชีวานันท์ น.ส.ธีรรัตน์ สำเรีจวณิชย์ เป็นเหรัญญิกพรรค นายจักรพงษ์ แสงมณี เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค
สำหรับน.ส.อรุณี กาสยานนท์ เป็นโฆษกพรรค และมีกรรมการบริหารพรรค 4 คน ประกอบด้วย นายชวลิต วิชยสุทธิ์, นายสรวงศ์ เทียนทอง, นายองอาจ วงษ์ประยูร และนายพรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์
นายสมพงษ์ กล่าวขอบคุณสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ได้ร่วมลงคะแนน ให้ความไว้วางใจในการเลือกตนกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้ง พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคการเมืองที่ได้ต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง มีความจำเป็นต้องปรับตัว ปรับโครงสร้างการบริหารของพรรค ให้สามารถแบกรับภารกิจ และให้เป็นที่หวังพึ่งได้ของพี่น้องประชาชน โดยภารกิจสำคัญอย่างแรก คือ ความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย โดยยืนยันจะจับมือร่วมกับทุกเครือข่าย เดินหน้าเร่งรัดแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดกติกาที่ยุติธรรม และเป็นประชาธิปไตยให้มากที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในทุกด้านอันจะเกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชน
สำหรับภารกิจที่สอง คือ ความมุ่งมั่นที่จะแบ่งเบาความทุกข์ยากเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะวิกฤติเศรษฐกิจที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้เริ่มส่งผลรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ เกิดผลกระทบอย่างใหญ่หลวง ต่อชีวิตพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ ทั้งคนรายได้น้อย คนตกงาน คนที่แม้ยังอยู่ในระบบแรงงานโดยเฉพาะกลุ่ม SME วิสาหกิจทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมไปถึงเกษตรกรทุกกลุ่มกำลังไปไม่ไหว
สิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะทำต่อจากนี้ คือ การระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วนทั้งภายในและภายนอกพรรค เพื่อร่วมกันสร้างและผลักดันนโยบาย เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้เป็นรูปธรรม ดังเช่นที่พรรคเพื่อไทยได้เคยทำสำเร็จมาแล้วอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ครั้งที่ยังเป็นพรรคไทยรักไทยที่เราได้สร้างความหวัง สร้างอนาคตให้แก่พี่น้องประชาชนได้อย่างชัดเจนที่สุด
ด้านนายประเสริฐ กล่าวว่า พรรคจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของพรรคใหม่ โดยจะเน้นเรื่องของการกระจายอำนาจ และมีการแบ่งภารกิจชัดเจน โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรคที่ได้ตั้งขึ้นใหม่นั้นเป็นศูนย์กลางในการบริหาร ซึ่งพรรคได้มองถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ที่อยู่ในภาวะวิกฤติ จึงมีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพของเศรษฐกิจและการเมืองที่เปลี่ยนไป โดยหลังจากนี้ จะเริ่มภารกิจแรกที่สำคัญ คือ เร่งระดมความคิดเห็น โดยเร่งประชุมกรรมการบริหารพรรคเป็นการด่วน ภายใน 1 หรือ 2 สัปดาห์นี้ เพื่อวางกรอบนโยบายในด้านต่างๆ
ขณะที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พรรคเพื่อไทยยืนหยัดที่จะทำประชาธิปไตยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องนี้ทางพรรคจะมีทีมงานขึ้นมา และเมื่อเปิดประชุมสภาฯ แล้วจะได้ถกกันในสภาต่อไป ส่วนในชั้นกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ยืนยันว่าไม่ร่วมสังฆกรรมแน่นอน เพราะดูแล้วรัฐบาลขาดความจริงใจในการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง เพราะจากวาระ 1 แทนที่จะพิจารณาทันที รัฐบาลกลับซื้อเวลา 1 เดือน เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญให้รอบคอบก่อน ส่วนที่ทาง กมธ.จะเชิญไปให้ความเห็นนั้น ยังไม่เห็นหนังสือ ซึ่งต้องดูประเด็นก่อนว่าเป็นประเด็นที่ประชาชนต้องการหรือไม่ จึงจะพิจารณาอีกครั้ง
"พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคที่มีจุดยืนที่มั่นคงในเรื่องของประชาธิปไตยแต่แรกแล้ว ซึ่งจุดยืนนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง วันนี้การรับฟังเสียงของคนรุ่นใหม่ พวกเรามองว่าเป็นประโยชน์ เราเดินเคียงคู่ทั้งบทบาทในสภาและนอกสภา และเราต้องมีการประสานงานกับอีกหลายภาคส่วนในอนาคต" เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว
ส่วนการเตรียมเลือกตั้งท้องถิ่นในส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องแรกๆ หลังจากที่คณะกรรมการบริหารเข้าทำงานแล้วจะได้พูดคุยกันในที่ประชุมต่อไป เพราะต้องมีการเตรียมการ เนื่องจากเหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว
ส่วนกรณีกระแสข่าวคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับมาบริหารพรรคเพื่อไทยนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า คุณหญิงพจมานเป็นผู้ใหญ่ของพรรค ที่เราให้ความเคารพนับถือ แต่ที่ผ่านมาคุณหญิงพจมานไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการบริหารกิจการของพรรคแต่อย่างใด